จากกรณี น.ส.ศรินทิพย์ อิ่มใจ อายุ 45 ปี แจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลชื่อดังใน จ.ขอนแก่น หลัง นายพินันท์ ประเคนทอง อายุ 65 ปี พ่อบุญธรรมป่วยหนัก ถูกหามส่งห้องฉุกเฉิน จู่ๆ พลัดตกเตียง ถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชกหน้าในห้องฉุกเฉิน ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตอนแรกรับผิด สุดท้ายกลับคำ

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 7 ธ.ค. ที่ ร.พ.ขอนแก่น นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร.พ.ขอนแก่น, พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และสื่อมวลชนหลายสำนัก ร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าว ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในคืนวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา

จากภาพดังกล่าว แยกออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกเป็นช่วงที่นายพินันท์ ผู้ที่เข้ามารับการรักษาอาการป่วย นั่งอยู่บนเตียงจากนั้นได้พยายามลงจากเตียงคนไข้ ก่อนที่จะพลัดตกลงจากเตียง ทำให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน ประมาณ 10 คนเข้ามาช่วยกันพยุงตัวขึ้น ซึ่งพบว่า มีแผลแตกที่บริเวณคิ้วด้านซ้าย จึงปฐมพยาบาลและเย็บแผลให้ โดยคลิปนี้ ญาติติดใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ยกที่กั้นเตียงขึ้นหรือไม่ ซึ่งทางโรงพยาบาลยืนยันว่าที่กั้นเตียงได้ยกขึ้น แต่ที่ทำให้ดูเหมือนไม่มีการยกเป็นเพราะมุมกล้อง แต่ก็ยอมรับว่ามีความบกพร่องในการดูแลควบคุมคนไข้ไม่ให้ลุกจากเตียงจริง

ต่อมาเป็นช่วงเหตุการณ์ขณะที่ นายพินันท์ นอนอยู่บนเตียง ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้บุรุษพยาบาลที่ถูกร้องเรียนได้เดินเข้ามาหา ซึ่งจากภาพจะเห็นว่า บุรุษพยาบาลได้ยกมือขวาขึ้นไปในระดับใบหน้าของผู้ป่วย ซึ่งทางโรงพยาบาลชี้แจงว่า ไม่ใช่การชก แต่เป็นการใช้มือไปคว้าผู้ป่วยที่พยายามจะแกะผ้าพันศีรษะออก แล้วบอกให้คนไข้นอนลงพร้อมกับเตือนว่าอย่าลุกขึ้นอีก เพราะเพิ่งตกลงจากเตียงมาแล้ว โดยคลิปนี้ทางญาติยอมรับว่า ไม่ได้เป็นการชกหน้า แต่เชื่อว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย จนผู้ป่วยหงายหลังลงจากการกระทำของบุรุษพยาบาล

ภายหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ดูภาพวงจรปิดจนเป็นที่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากทางญาติผู้ป่วยยังคงติดใจใน 2 ประเด็น คือ มาตรฐานในการดูแลควบคุมคนไข้ และการใช้ความรุนแรง รวมทั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบุรุษพยาบาลที่กระทำตามภาพ ในที่สุดทั้ง 2 ฝ่าย จึงขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการทางกฎหมายและชั้นศาลที่จะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด เนื่องจากไม่สามารถตกลงไกล่เกลี่ยกันได้

นพ.ชาญชัย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาล ยอมรับว่ามีความบกพร่องในการควบคุมผู้ป่วยให้อยู่บนเตียง และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วยการชี้หน้าคนป่วย แต่ก็ทำไปเพราะต้องการห้ามไม่ให้คนป่วยประสบอุบัติเหตุอีก แต่เมื่อทางญาติยังคงติดใจว่าผู้ป่วยถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งทางบุรุษพยาบาลก็ยืนยันว่า เป็นการป้องกันไม่ให้คนไข้แกะผ้าพันแผล ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการทางกฎหมายที่จะต่อสู้กันตามขั้นตอน

ขณะที่ น.ส.ศรินทิพย์ กล่าวว่า ตนต้องการที่จะพูดคุยกับบุรุษพยาบาล ที่เป็นคู่กรณีว่ามีจิตสำนึกและยอมรับผิดว่าสิ่งได้กระทำไป เป็นการทำร้ายพ่อ แล้วขอโทษทางครอบครัวก็ยินดีที่จะไกล่เกลี่ย แต่หากไม่มาพูดคุยหรือแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ กระทำลงไป ทางครอบครัวก็จะดำเนินคดีกับบุรุษพยาบาลคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด ทั้งในเรื่องของการเรียกร้อง เอาผิดทางวินัย และคดีอาญา