ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีดำ ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอาเธอร์ เซการา พรินเซฟ ชาวสเปน เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และข้อหาอื่นจากกรณีระหว่างวันที่ 20 -26 ม.ค. 2559 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้ฆ่า นายเดวิด เบอร์นาด โมรัค เพื่อนร่วมชาติภายในห้องพัก คอนโดมิเนียม ย่านพระราม 9 จนถึงแก่ความตาย แล้วนำศพแช่ในตู้แช่หั่นเป็นชิ้นนำไปทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา และลักเอาเงินจำนวน 734,940 บาท ของผู้ตายไป คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว และให้ชดใช้เงินค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตายด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยรู้จักกับผู้ตาย แล้วชักชวนผู้ตายมาเข้าพักที่ห้องซึ่งจำเลยเปิดไว้ ต่อมาได้บังคับให้ผู้ตายบอกรหัสผ่านทางอิเลคทรอนิกส์ กับทำร้าย เมื่อได้โอนเงินเข้าบัญชีไป 10 ล้านบาท แล้วลักเอาเงินสด 734,940 บาท

แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน แต่โจทก์มีพยานแวดล้อม ทั้งแม่บ้านทำความสะอาด กล้องทีวีวงจรปิด เพื่อนหญิงของจำเลย ประกอบกับพยานวัตถุเช่น คราบเลือด เหงื่อ ที่อุปกรณ์เจียรหินไฟฟ้า ตู้แช่ ตรงกับ DNA ของผู้ตายและเข้าตรงกับ DNA ของจำเลย โดยเห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโดยคิดทบทวนวางแผน กับซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปกปิดเหตุแห่งการตาย จึงพิพากษายืนประหารชีวิต กับให้ใช้เงิน 7 แสนบาทเศษ และให้

ศาลอุทธรณ์ยืนประหาร หนุ่มสเปนฆ่าหั่นศพยัดตู้แช่ ทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาปี 59