สืบเนื่องจากกรณีที่ หนุ่มญี่ปุ่นเที่ยวเวียดนาม ซื้อชิ้นส่วนระเบิด ซองกระสุนเอเค47หรือ อาก้า M16 เปลือทุ่นระเบิดเคลย์มอร์นำเข้าไปผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ภายในสนามบินดอนเมืองหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ครบตัวเพื่อดำเนินคดี

ต่อมาทางทีมงานเค้าชาวบ้านได้สังเกต จากคำให้การของนายฮิราโนะ ทาเครุ (Hirano Takeru) สัญชาติญี่ปุ่น ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน พบว่าชายคนดังกล่าวนี้ได้ซื้อเครื่องยุทธภัณฑ์ทางทหารมาจากประเทศเวียดนามจึงได้ตั้งข้อสงสัยว่าชายคนดังกล่าวนำเครื่องยุทธภัณฑ์ทหารผ่านด่านตรวจของชายแดนของประเทศไทยเข้ามาได้อย่างไร

ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุลรอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทาเคระ ฮิราโน่ะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่พร้อมยุทธภัณฑ์ทางสงครามที่สนามบินดอนเมืองว่า เบื้องต้น ทราบว่ายุทธพัณฑ์ได้สั่งการให้จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ผู้ต้องหาอ้างว่าซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่ระหว่างตรวจสอบอยู่ว่าเข้ามาจากด่านไหน แต่ปกติการตรวจสัมภาระพวกนี้เป็นหน้าที่ของกรมศุลกากร แต่ก็ให้ ตม.ทำเรื่องชี้แจงขึ้นมาว่าเขาผ่านมาอย่างไร มาอยู่ในฐานะอะไร และความเคลื่อนไหวระหว่างอยู่ไทยทำอะไร

ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่านำยุทธภัณฑ์มาจากต่างประเทศเป็นเพียงการให้การ หลักฐานแท้จริงยังไม่ทราบ ส่วนตัววัตถุต้องให้เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าที่มาจากไหน และจะได้ประสานกรมศุลกากรว่านำเข้ามาจริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้นำเข้ามาก็ไม่ตรงตามที่ผู้ต้องหาพูด เพราะมีเครื่องเอกซ์เรย์บันทึกไว้ทั้งหมดต้องไล่ตรวจสอบจนได้ว่ามาจากไหนกันแน่ แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การไว้ก็รับฟังไว้ส่วนหนึ่ง แต่ในหลักกฎหมายไทยใช่ไม่ได้

ทั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าต้นตอ ของเครื่องยุทธภัณฑ์อาวุธสงครามที่ชาวต่างชาติรายนี้ พยายามนำขึ้นเครื่องหวังข้ามประเทศมาจากไหนแต่แน่นอนว่านอกจากชายคนนี้จะต้องถูกดำในคดีในประเทศไทยแล้วถ้าหากว่ามาจากเวียดนามจริงก็จะต้องมีอีกหลายหน่วยงานที่จะต้องรับผิดชอบ

อีโอดีจ่อเข้าตรวจสอบที่มาเครื่องยุทธภัณฑ์ทางทหารที่ขาวต่างชาตินำเข้าสนามบินดอนเมือง