เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 เว็บไซต์เดอะนิวส์สเตรทไทม์สรายงานข้อมูลอ้างอิงจากสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า จอซินวิน (Kyaw Zin Win) เกย์หนุ่มชาวเมียนมา วัย 26 ปี ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองหลังจากตกเป็นเป้าโจมตีจากเหล่าเพื่อนร่วมงานที่เหยียดเพศ

เขาถูกพวกเขากลั่นแกล้งรังแกอย่างสาหัส อีกทั้งยังถูกไล่จากออกจากงานอย่างไร้เหตุผลเพียงแค่เพราะว่าเขาเป็นคนรักร่วมเพศ โดยการเสียชีวิตของเขาได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วสังคม LGBT สังคมออนไลน์ต่างร่วมไว้อาลัยและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเขา

จอซินวิน พักอาศัยอยู่กับยายวัยชราและมักจะโพสต์รูปคู่น่ารักๆ ลงบนเฟซบุ๊กเผยให้เห็นรอยยิ้มเต็มไปด้วยความสุขของสองยายหลาน

สำหรับชีวิตการทำงานนั้นข้อมูลจากดิอิระวดี ระบุว่า จอซินวิน ทำงานเป็นบรรณารักษ์อยู่ที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเมียนมาอิมพิเรียลหรือ MIU (Myanmar Imperial University) ในเมืองย่างกุ้งตั้งแต่ปี 2560 ต่อมาเพื่อนร่วมงานได้รับรู้ว่าเขาเป็นเกย์มันนำไปสู่การรุมกลั่นแกล้งต่างๆ นานารวมทั้งการพูดจาล้อเลียนและเมื่อเร็วๆ นี้ จอซินวินก็ถูกไล่ออกจากงาน

ยายของ จอ วิน ซิน ร่ำไห้เสียใจ ข้าง ๆ รูปหน้าศพหลานชาย ภาพจาก Sai Aung MAIN AFP

ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคมจอซินวินได้เปลี่ยนภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นรูป “ยมทูต” ที่มีพื้นหลังเป็นสีดำหลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงอดีตบรรณารักษ์ได้โพสต์ข้อความว่า “ในวันหนึ่งผมจะจากไปและไม่ย้อนกลับมาอีกทุกคนจะไม่ได้ยินเสียงผมอีกแล้วและจะไม่ได้ยินเสียงของผมอีกต่อไป”

ต่อมาในวันที่23 มิถุนายนจอซินวินได้โพสต์ภาพหน้าจอจากแชตกรุ๊ปที่ทำงานซึ่งเหล่าเพื่อนร่วมงานต่างพิมพ์ข้อความดูถูกล้อเลียนเขาและเขาได้ระบุข้อความเป็นจดหมายลาตายถึงครอบครัวเพื่อนและถึงตัวเองเป็นคำสั่งลาในครั้งสุดท้าย

“ถึงชีวิตของผม

เมียนมาคือประเทศที่คนหนุ่มสาวต้องเป็นฝ่ายขอโทษผู้ใหญ่เสมอแม้ว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายถูกก็ตามที่แห่งนี้คือประเทศที่ดูถูกล้อเลียนคนและการมีตัวตนของเขามันคือเป็นประเทศที่ผู้คนมีความสองมาตรฐานมีสองหน้าและใส่หน้ากากเข้าหากันมันคือประเทศที่…. ไม่ว่าคนผู้น้อยจะมีสิทธิ์มีเสียงอย่างไรจะถูกต้องหรือไม่เขาก็ต้องทำตามผู้ใหญ่และต้องเป็นเบี้ยล่างให้แก่คนที่อยู่สูงกว่าเสมอ

“ถึงครอบครัวของผม

ได้โปรดนึกถึงผมนะครับแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ตรงนี้อีกแล้วผมพยายามอย่างมากแล้วครับแต่ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้วผมรักยายนะครับรักป้าด้วยการกลืนยาเหล่านั้นเข้าไปมันน่ากลัวนะแต่ผู้คนเหล่านั้นน่ากลัวมากกว่าได้โปรดเข้าใจผมด้วยนะครับว่าทำไมผมถึงตัดสินใจทำแบบนี้อย่าโกรธผมเลย

ถึงเพื่อนๆทุกคนผมรักพวกคุณทุกคนครับ“

หลังจากที่โพสต์ข้อความสั่งลาได้ไม่นานจอซินวินก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นครั้งสุดท้ายเป็นภาพที่เขากำลังนั่งยิ้มและระบุแคปชั่นว่า“A New Day Has Come” หรือแปลได้ว่า“วันใหม่มาถึงแล้ว” และเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปจอซินวินก็ได้ฆ่าตัวตาย

ภาพสุดท้ายของ จิน ซิน วิน ก่อนที่เขาจะฆ่าตัวตาย ภาพจาก Kyaw Zin Win

ข่าวการเสียชีวิตของจอซินวินได้สร้างความสะเทือนใจไปทั่วสังคมออนไลน์ของเมียนมาโดยลามเยียตตันนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของกลุ่ม LGBT และร้องผู้อำนวยการกลุ่ม Color Rainbow ได้ออกมาเปิดเผยว่า จอซินวินได้เสียสละชีวิตของเขาเพื่อให้โลกได้รับรู้ถึงปัญหาการดูถูกเหยียดหยามในสังคมที่ทำงานและโรงเรียนว่ามันร้ายแรงมากแค่ไหนและมันส่งผลกระทบอะไรได้บ้าง

ลามเยียตตัน กล่าวอีกว่า มนุษย์เราทุกคนไม่ว่าจะมาจากพื้นหลังทางสังคมแบบไหนมีฐานะอะไรหรือไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ตามทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมแต่ในเมียนมาแล้วมันเป็นเรื่องยากมากที่จะเป็นจริงได้เพราะความเกลียดกลัวความแตกต่างโดยเฉพาะการเกลียดกลัวเพศที่สามยังคงฝังรากลึกอยู่ในสังคม

ทางด้านมหาวิทยาลัยเมียนมาอิมพีเรียลก็ได้ออกมาไว้อาลัยถึงการจากไปของ จอซินวิน ผ่านทางเฟซบุ๊กMyanmar Imperial University – MIU พร้อมออกแถลงการณ์ว่าทางมหาวิทยาลัยจะทำการสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อมอบความยุติธรรมให้กับเขาและขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการทางกฎหมายแล้ว

ยูทูบเบอร์ชื่อดัง!? ปลิดชีพตัวเอง หลังเสียแม่ไป แถมยังโดนบูลลี่อีก!???

รองผู้ว่าฯหญิงจันทบุรีใจเด็ด เข้าเจรจากับชายถือมีด จับมือรับปากจะให้ความเป็นธรรม!