จากกรณีคนร้ายถูกวิสามัญ เสียชีวิต 2 ราย จากการตรวจสอบพบรายแรกมีหมายจับ 2 หมาย เป็นหัวหน้ากลุ่ม RKK ระดับสั่งการ ส่วนอีกรายคือ มีหมายจับ 1 หมาย เป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการณ์ โดยเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธปืนอาก้ารอ และขนาด 9 มม. 2 กระบอก โดยยังมีคนร้ายที่ยังหลบหนีและหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ 3 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 15 ส.ค. พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4, พล.ต.ปิยะพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี, พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 ชุดจู่โจม เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับทราบสถานการณ์ หลังจากมีการปิดล้อมป่าละเมาะในหมู่บ้านบือแนจือแล ม.2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 14 สศ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะปิดล้อมได้มีการนำเครื่องร่อนติดอุปกรณ์จับความร้อนบินตรวจสอบ ปรากฏว่าสามารถจับความร้อน 3 จุดที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่หลบซ่อนตัว และขณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการปรับยุทธวิธีเพื่อเข้าประชิด โดยคนร้ายได้ยิงใส่เจ้าหน้าที่และมีการยิงตอบโต้กันเป็นระยะ ทั้งนี้ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์บินวนเพื่อประกาศให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่หลายนัด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกภารกิจการบินในระยะใกล้

3 คนร้ายพยายามฝ่าวงล้อม ยิงใส่ เฮลิคอปเตอร์ หลังหลบซ่อนตัวในป่าละเมาะบ้านบือแนจือ

โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามกระชับวงล้อมบังคับใช้กฎหมาย มีการเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัวตั้งแต่เช้า แต่ก็ยังคงมีการยิงปะทะเป็นระลอก โดยพบคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน แบ่งเป็น 2 ชุด หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณป่าละเมาะ กลางทุ่งนา

พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง ลดความเสี่ยงในการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และให้จับเป็นเพื่อนำตัวคนร้ายเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม โดยเจ้าหน้าที่ได้ปรับแผนเข้ากระชับวงล้อม ส่งชุดเข้าไปเจรจา เพื่อให้กลุ่มคนร้ายที่ยังเหลืออยู่ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 3 คน ให้ยอมมอบตัว ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายทุกขั้นตอน

“แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่เฝ้าระวังพื้นที่ เพื่อป้องกันการตอบโต้กลับของกลุ่มคนร้าย และให้คำนึงถึงความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ ตามแนวทางสันติวิธี” พล.ต.ปราโมทย์ กล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่บริเวณรอบนอก เจ้าหน้าที่ได้กันออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยและขอให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพราะกลุ่มคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง มีการจัดชุดมวลชนสัมพันธ์ไปพบปะสร้างความเข้าใจกับพื้นที่โดยรอบ โดยขอให้ประชาชนทุกคนได้มั่นใจในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่จะยึดการบังคับใช้กฎหมายเป็นสำคัญ และดำเนินการจากเบาไปหาหนัก เพื่อสร้างความปลอดภัยและสร้างสันติสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ปัตตานีเดือด! กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ โอบล้อมกลุ่มคนร้าย ยิงต่อสู้ปะทะกลางป่าละเมาะ