วันที่ 26 ส.ค. ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และ นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา ได้เดินทางมายื่นคำแถลงต่อศาลเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารของ ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งถอนอายัดบัญชีธนาคารดังกล่าว โดยร.ต.ท.จรูญ ได้ฝากเงินที่ได้จากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ซึ่งเหลืออยู่ 24 ล้านบาทเอาไว้

นายษิทรา กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องยื่นแถลงต่อศาลเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารนั้น เป็นเพราะทางนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ได้มีการโพสต์ข้อความและหนังสือยื่นคัดค้านขอให้ธนาคารไม่อนุมัติให้ร.ต.ท.จรูญทำการเบิกถอนเงินในบัญชีลงในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยในหนังสือดังกล่าว มีการระบุหมายเลขบัญชีของร.ต.ท.จรูญไว้อย่างชัดเจน

นายษิทรา กล่าวต่อว่า ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้นอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพหรือผู้ที่ไม่หวังดีได้รู้หมายเลขบัญชีของร.ต.ท.จรูญ ซึ่งมีเงินฝากอยู่มากกว่า 24 ล้านบาท และอาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับเงินในบัญชีได้ ตนจึงมายื่นแถลงต่อศาลก่อนจะไปหารือกับทางผู้จัดการธนาคารว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการยื่นปิดบัญชีดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของเงินในบัญชี

นายษิทรา กล่าวอีกว่า การที่ตนและร.ต.ท.จรูญต้องมายื่นแถลงต่อศาลนั้น เป็นเพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เป็นการมาขออนุญาตศาลแต่อย่างใด เพราะหลังจากศาลมีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีของร.ต.ท.จรูญแล้ว ก็หมายความว่าร.ต.ท.จรูญสามารถที่จะเบิกถอนเงินในบัญชีได้อย่างอิสระ แต่เนื่องจากร.ต.ท.จรูญยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเบิกถอนเงินในบัญชี จึงยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ

“กระทั่งครูปรีชามาทำการโพสต์เลขบัญชีของลุงจรูญลงสื่อโซเชียล ผมและลุงจรูญจึงต้องดำเนินการขอปิดบัญชีเพื่อความปลอดภัย ซึ่งการกระทำของครูปรีชานั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิ์ของลุงจรูญ ในการนำหมายเลขบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นของสำคัญมาเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ในครั้งนี้ทางผมและลุงจรูญจะยังไม่ดำเนินการทางกฎหมายใด ๆ เพียงอยากจะขอเตือนว่าไม่ควรกระทำในลักษณะนี้อีก หากมีการกระทำเช่นนี้อีก ก็คงจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปอย่างแน่นอน” นายษิทรา กล่าว

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลใจว่าการกระทำดังกล่าวของนายปรีชาจะทำให้ตนไม่สามารถเบิกถอนเงินในบัญชีธนาคารได้ เพราะศาลได้มีคำสั่งออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่การกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับเงินในบัญชีของตนเท่านั้น ตนจึงต้องเดินทางมายื่นแถลงต่อศาลเพื่อขอปิดบัญชี

“การกระทำของครูปรีชานี้ ทำให้รู้สึกว่า ฝ่ายของครูปรีชา ยังคงไม่ยอมจบในเรื่องนี้ง่าย ๆ ทั้งที่ในช่วงเกิดคดีแรก ๆ ทางครูปรีชาเป็นฝ่ายที่เชื่อในคำสั่งของศาลมาตลอด แต่เมื่อศาลมีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีของผม ครูปรีชากลับมีพฤติกรรมเหมือนไม่เชื่อฟังในคำสั่งของศาลเสียเอง” ร.ต.ท.จรูญ กล่าว

ทั้งนี้ หลังยื่นแถลงต่อศาลเสร็จเรียบร้อย ร.ต.ท.จรูญวิมูลและภรรยา ได้เดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทยสาขากาญจนบุรี เพื่อพบกับผู้จัดการธนาคาร และดำเนินการหารือพร้อมขอปิดบัญชีธนาคารดังกล่าว

ร.ต.ท.จรูญ ให้สัมภาษณ์ภายหลังทำการปิดบัญชีเสร็จแล้วว่า ตอนนี้ยังไม่มีแผนที่จะนำเงินไปใช้อะไร จึงนำเงินทั้งหมดออกจากบัญชีก่อนจะไปหารือกับครอบครัวก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเงินก้อนนี้ส่วนเรื่องคดีความ ตอนนี้ก็โล่งใจไปมากแล้วเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ยังติดขัดนิดหน่อยก็เพราะยังมีบางคดีที่ยังไม่จบ หากจบหมดทุกคดีก็คงโล่งใจ ทั้งนี้ ก็ต้องขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรมกับตนได้มากที่สุด

ทั้งนี้ทางด้านทนายษิทราก็ได้โพสต์แสดงความยินดีกับลุงจรูญที่ได้เงินมาแล้ว พร้อมทั้งมีชาวเน็ตมากมายเข้าไปร่วมแสดงความยินดีด้วย

ตรวจสอบหนัก เฟซบุ๊ก ปิดบัญชีผู้ใช้ 5,400 ล้านรายชื่อ

ลุงจรูญ รีบปิดบัญชี เอาเงินหวย 30 ล้านออกมา หลังครูปรีชา โพสต์เลขบัญชีของลุงจรูญลงสื่อโซเชียล

เอาใจลูกหนี้!! กยศ.จัดโปรหนักขู่ลูกหนี้ ลดทั้งเบี้ยปรับและเงินต้น

ครูวิภา หอบเงิน 2.7 แสนบาท ชำระหนี้ กยศ ที่ยังค้างอยู่แทนลูกศิษย์ที่ยังไม่ได้จ่าย