เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2564 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 (ศปก.ทรภ.1) แจ้งว่ามีเรือประมงต่างชาติ (เรือประมงอวนลากคู่) จำนวน 2 คู่ ได้รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย บริเวณห่างปลายแหลมเทียน อ.เกาะกูด จ.ตราด ประมาณ 29 ไมล์ ใกล้กับพื้นที่รับผิดชอบของหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มีรางวัล ! หลัง ” สุดาพร สีสอนดี ” คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิกโตเกียว 2020 กองทัพเรือ ปูนบำเหน็จ แต่งตั้งยศเป็น ” เรือตรี “

“บิ๊กอุ้ย” ประชุมหน่วยกองทัพเรือ หวังสร้างความเข้าใจเรื่อง ‘เรือดำน้ำ’ และกำชับเข้มงวดป้องกัน COVID-19

แจงภาพข้าราชการกองทัพเรือจำนวนหนึ่งแต่งเครื่องแบบสีขาว เข้าร่วมพิธีทางความเชื่อของหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล

จึงสั่งการเรือในหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1 (มชด./1) ออกลาดตระเวนค้นหา ตรวจสอบและจับกุม โดยส่งเรือ ต.113 และ เรือ ต.237 ออกเรือทำการลาดตระเวนค้นหา กลุ่มเรือประมงต่างชาติ สัญชาติเวียดนาม ตามที่ได้รับจำนวน 2 ลำ เบื้องต้นพบว่า ลักษณะตัวเรือมีสีเขียว เก๋งสีขาวคาดเทา จึงนำเรือเข้าตรวจค้นและจับกุม

แต่เรือทั้งสองลำได้ทิ้งอุปกรณ์ทำการประมง และพยายามหลบหนี ไม่ยินยอมให้เข้าตรวจค้นจับกุม กลับเพิ่มความเร็ว แล่นส่ายไปมา และพยายามจะพุ่งชนเรือที่เข้าสกัดกั้น โดยเรือ ต.113 และเรือ ต.237 ได้ปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมเรือประมงต่างชาติ แต่เรือประมงยังคงนำเรือมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก เพื่อหนีออกนอกน่านน้ำไทย

เบื้องต้น มชด./1 ได้สั่งการให้ เรือ ต.113 และ เรือ ต.237 ไล่ติดตาม เรือประมงต่างชาติจนออกนอกเขตน่านน้ำไทย พร้อมทั้งให้ดำเนินการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเพื่อรายงานให้กับหน่วยที่เกี่ยวข้องทราบ และดำเนินการต่อไป

พล.ร.ท.โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยการทำประมงรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือประมงต่างชาติ โดยเฉพาะเรืออวนลาก สร้างความเสียหายแก่ซั้งของพี่น้องชาวประมงไทยเป็นจำนวนมาก แถมยังกีดขวาง และแย่งพื้นที่การทำประมงของพี่น้องประมงไทย อีกด้วย