กองปราบฯ…!! รวบขบวนการเท้าแชร์แสบ หลอกเหยื่อร่วมลงทุน ก่อนเชิดเงินหนี พบความเสียหายหลายสิบล้านบาท

วันที่ 22 กรกฎาคม กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.พหลโยธิน ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย นางสาวภัสรีญา (สงวนนามสกุล)

นายกิตติ (สงวนนามสกุล)

ข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน “ทำการเป็นอั้งยี่, ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันฟอกเงิน,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการคนร้ายที่เปิดเพจเฟซบุ๊กโฆษณาชักชวนระดมทุน ระบุหากมีผู้สนใจก็จะมีการชักชวนให้เข้าไปเป็นสมาชิกในกลุ่มไลน์ ที่กลุ่มคนร้ายจัดตั้งขึ้น เพื่อชักชวนสมาชิกให้ร่วมลงทุนลักษณะออมทอง และลงทุนระดมเงินในวงแชร์ผ่อนทองคำ โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง ซึ่งในระยะแรกสมาชิกจะได้เงินดอกเบี้ยจากการออมคืนตามที่ได้แจ้งไว้ ประกอบกับการสร้างโปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือ ทำให้มีสมาชิกหลายร้อยรายหลงเชื่อร่วมลงทุนทั้งวงแชร์และแบบออมทอง ก่อนที่กลุ่มของคนร้ายจะปิดเฟซบุ๊ก และเชิดเงินหลบหนี ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อร่วมลงทุนเสียหายตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้าน หวังจะได้เงินออม แต่กลับเป็นหนี้สินเพิ่ม ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งทำการสืบสวน จนพบว่าขบวนการนี้ มีพฤติการณ์ร่วมกันหลอกลวงเหยื่อจริง นอกจากนี้ยังมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้มาเพื่อให้ยากแก่การติดตามอีกด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามแกะรอย จนทราบว่าคนร้ายหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ม.2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบ น.ส.ภัสรีญา หรือเฟิร์น และ นายกิตติ หรือโจ้ ผู้ต้องหาทั้งสองคน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มขบวนการดังกล่าว ทั้งนี้ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้ว่าได้มาจากการกระทำความผิด ได้แก่ เงินสดกว่า 6,000,0000 บาท ทองรูปพรรณ โฉนดที่ดิน และทรัพย์สินมีค่าอื่นอีกหลายรายการมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข้อเตือนภัย ตำรวจสอบสวนกลาง ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน เนื่องจากปัจจุบัน มิจฉาชีพจะใช้สื่อออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม Social Media หลอกให้มีการร่วมลงทุนในรูปแบบต่างๆ โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งในระยะแรก มิจฉาชีพจะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุน และจะชักชวนให้ร่วมลงทุนในจำนวนเงินที่สูงขึ้นเพื่อจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า จากนั้นเมื่อมีผู้นำเงินร่วมลงทุนจำนวนมากแล้ว มิจฉาชีพเหล่านี้ ก็จะปิดแพลตฟอร์ม Social Media หลบหนีไป ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดมีเบาะแส สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ที่ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

-งานนี้วุ่นหนัก หลังพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในไทยรายแรก ล่าสุดลือหนัก คนป่วยหนีออกจากโรงพยาบาลแล้ว

-อย.ประกาศลงนาม คลินิกซื้อ-จำหน่ายยาต้านไวรัสรักษาโควิดได้แล้ว

ผลการจับกุมครั้งนี้เป็นของ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบกป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป.,

พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป.,พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ปทส.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ รอง ผกก. 2 บก.ป.

กองปราบฯ…!! รวบขบวนการเท้าแชร์แสบ หลอกเหยื่อร่วมลงทุน ก่อนเชิดเงินหนี พบความเสียหายหลายสิบล้านบาท

จีเอ็มเอ็ม จับมือ วายจี ค่ายเพลงดังจากเกาหลีใต้ร่วมทุน 200 ล้าน บริษัทร่วมทุนนี้มีชื่อว่า “YGMM”