ลำไย ผลไม้รสหวานอร่อย เป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ การได้กินลำไยเย็นๆ ชื่นใจก็คงจะดีไม่น้อย แต่ก็มีคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยและกังวลใจ นั่นก็คือ กินลำไยแล้วจะทำให้เป็นร้อนในจริงหรือเปล่า? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนี้กันให้กระจ่าง พร้อมทั้งเจาะลึกถึงสาเหตุของอาการร้อนใน และวิธีรับประทานลำไยอย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณอร่อยกับลำไยได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวร้อนในมากวนใจอีกต่อไป

จากข้อมูลของเว็บไซต์ POBPAD ระบุว่า ลำไยไม่ได้เป็นสาเหตุของร้อนในโดยตรง แต่การกินลำไยมากเกินไป อาจเป็นปัจจัยเสริม ที่ทำให้เกิดร้อนในได้ เนื่องจากลำไยมีน้ำตาลสูง ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรีย ในช่องปาก เมื่อแบคทีเรียได้รับน้ำตาล ก็จะเจริญเติบโต และเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบ และเป็นแผลร้อนในได้

อย่างไรก็ตาม ในทางการแพทย์แผนไทย ลำไยถูกจัดว่าเป็น ผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน เมื่อรับประทานในปริมาณมาก อาจส่งผลให้ร่างกายเกิดความร้อนสะสม และแสดงอาการต่าง ๆ ที่เรียกว่า “ภาวะร่างกายร้อนเกิน” ซึ่งอาการร้อนในก็เป็นหนึ่งในอาการที่อาจเกิดขึ้นได้

ดังนั้น การกินลำไย จึงไม่ได้เป็นสาเหตุ ของร้อนในโดยตรง แต่หากกินมากเกินไป ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ก็อาจทำให้เกิดร้อนในได้ ดังนั้น ควรกินลำไยในปริมาณที่พอเหมาะ และดูแลสุขภาพช่องปาก ให้สะอาด อยู่เสมอ

แผลร้อนใน คือ แผลขนาดเล็ก ตื้น ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุอ่อนในช่องปาก เช่น กระพุ้งแก้ม ลิ้น เหงือก หรือเพดานปาก ลักษณะของแผลจะเป็นวงรีหรือวงกลม ขอบแผลมีสีแดง และตรงกลางแผลมีสีขาวหรือเหลือง มักมีอาการเจ็บ แสบร้อน ทำให้รู้สึกไม่สบายในช่องปาก โดยเฉพาะเวลาพูดหรือรับประทานอาหาร

สาเหตุของการเกิดร้อนใน นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการร้อนในได้ เช่น

1. ความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ

เมื่อร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานลดลง ก็มีโอกาสเกิดร้อนในได้ง่ายขึ้น

2. การบาดเจ็บในช่องปาก

เช่น การแปรงฟันแรงเกินไป การกัดกระพุ้งแก้มโดยไม่ตั้งใจ หรือการใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดี

3. การแพ้อาหารหรือสารบางชนิด

เนื่องจากอาหารบางชนิด เช่น อาหารรสเปรี้ยวจัด อาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด หรือสารเคมีบางชนิดในยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเกิดร้อนในได้

4. ภาวะขาดวิตามินและแร่ธาตุ

โดยเฉพาะวิตามินบี 12, ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก

5. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

เช่น ในช่วงมีประจำเดือนในผู้หญิง

6. โรคประจำตัวบางชนิด

เช่น โรคลำไส้อักเสบ โรคเซลิแอค หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ลำไย ผลไม้ รสหวาน ที่หลายคนชื่นชอบ อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ มากมาย แต่ก็มีโทษ เช่นกัน หากกิน มากเกินไป

ประโยชน์ของลำไย

บำรุงสมองและระบบประสาท

ลำไยมีวิตามินบี 12 ที่ช่วยบำรุงประสาท และสมอง โพแทสเซียม ช่วยให้สมองทำงานได้ดี และมีส่วนช่วยในการเรียนรู้ และจดจำ

บำรุงผิวพรรณ

วิตามินซี ในลำไย ช่วย ต่อต้านอนุมูลอิสระ และ เสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณสดใส

บำรุงเลือด

ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายแข็งแรง

ช่วยให้หลับสบาย

ลำไยมีสรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลาย และ นอนหลับสบาย

บำรุงกระดูกและฟัน

แคลเซียม ช่วยเสริมสร้าง กระดูก และ ฟัน ให้แข็งแรง

โทษของลำไย

การกินลำไยมากเกินไป อาจทำให้ร้อนในได้ เนื่องจากลำไยมีน้ำตาลสูง ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรีย ในช่องปาก
ลำไยมีน้ำตาลสูง ผู้ป่วยเบาหวาน ควรกินในปริมาณที่ จำกัด
ลำไยมีฤทธิ์ร้อน อาจทำให้ท้องอืด ได้

หากอยากเพลิดเพลินกับ ลำไย ผลไม้หวานอร่อย ให้กินแต่พอดี พร้อมดื่มน้ำมากขึ้น เพื่อป้องกันอาการแห้งคอหรือกระตุ้นให้ร่างกายร้อนจนเกินไป ใครที่กลัวว่าตัวเองจะ “ร้อนใน” ก็ให้สังเกตอาการของตนเอง รักษาสุขอนามัยช่องปาก ควบคู่กับการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราสนุกกับการรับประทานลำไย โดยไม่ต้องกังวลว่ากินเข้าไปแล้วจะต้องทรมานกับแผลในปากเสมอไปครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูน้อยอารมณ์ดี! “น้องสเปซ” หัวเราะชอบใจ เมื่อถูกพ่อเป็กฟัดแก้ม น่ารัก น่ามันเขี้ยวสุดๆ

ดีต่อใจแฟนคลับ 20 ปี “อั้ม-เมย์” เปิดใจถึงกันและกัน

กินลำไยหวานฉ่ำ เสี่ยงร้อนในจริงไหม? คำตอบจากงานวิจัย พร้อมเคล็ดลับกินลำไย ไม่ต้องกังวลร้อนใน