เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สวัสดิการสังคมเทศบาลเมืองไร่ขิง เจ้าหน้าที่พยาบาลทีมกู้ชีพโรงพยาบาลสามพราน เข้าไปยังบ้านเอื้ออาทร พุทธมณฑลสาย 5 ชั้น 5 ม.13 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ นางทองลักษณ์ พาหา อายุ 81ปี ที่อยู่ตามภูมิลำเนา เลขที่ 64/1 ม.7 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

หลังได้รับการร้องเรียน และขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมอาคาร เนื่องจากถูกลูกสะใภ้และลูกชายตบตีทำร้ายร่างกาย โดยสภาพมีบาดแผลที่ศีรษะใบหน้า และร่างกายมีรอยช้ำหลายแห่ง และมีชีพจรเต้นอ่อน โดยเมื่อทีมกู้ชีพได้เข้าให้การช่วยเหลือ พบว่า มีอาการไม่สู้ดีจึงได้เร่งนำตัวส่งไปทำการปฐมพยาบาลโดยด่วน

จากการสอบถาม นางเคลือวัลย์ เพชรอิน อายุ 59 ปี อสม.ประจำตำบลไร่ขิง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานพอสมควร และทุกครัวเรือนรู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยห้องที่ 77/5509 มีลูกชายและลูกสะใภ้ของยายทองลักษณ์ มาอาศัยอยู่ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งที่ผ่านมา พบว่า มีการแอบทำร้ายแม่มากขึ้น และหนักขึ้นทุกวัน โดยทุกคนที่อาศัยอยู่ทราบกันดีถึงพฤติกรรมของครอบครัวนี้ โดยจะไม่ให้ ยายลักษณ์ เข้าไปนอนในห้อง แต่จะให้มานอนนอกห้อง เวลาจะอาบน้ำจะให้ถอดเสื้อผ้าที่หน้าห้อง และให้คลานเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ แล้วออกมาแต่งตัวนอกห้อง

นอกจากนี้ มีหลายคนบอกว่า ช่วงที่ยายลักษณ์ ยังเดินได้ต้องไปอาศัยเพื่อนบ้านเข้าห้องน้ำ ข้าวปลาอาหาร ขนมจะไปขอคนอื่นกินประทังชีวิต แต่ช่วงหลังมีคนที่อาศัยอยู่ที่ชั้น 3 และชั้น 4 จะได้ยินเสียงทุบดตีหลายครั้ง กระทั่งเห็นว่ายายลักษณ์ หายไปหลายวัน จึงได้ขึ้นมาดู พบว่า มีบาดแผลเต็มใบหน้าบวมไปหมด มีอาการหายใจช้า จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองไร่ขิงให้มาช่วยเหลือ

จากการตรวจสอบพบว่า มีคราบเลือดบนที่นอนหลายแห่ง โดยที่ผ่านมาเคยทราบว่าลูกสะใภ้จิกหัวแล้วทุบตี บางครั้งตีด้วยไม้แบบรุนแรง โดยล่าสุดมีแผลที่ศีรษะ และต้องไปเย็บบาดแผล และมีคราบเลือดออกที่ใบหน้าอีก ซึ่งตนเองได้ไปตัดผมให้สั้นเพื่อจะให้ยายไม่ต้องโดนเอามือจิกหัวกระชากผมเพื่อทำร้ายร่างกาย

ด้าน นางพวงเพชร เพชรแสนค้า อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้าง เพื่อนบ้านบอกว่า คนที่จะทำร้ายยายลักษณ์ บ่อยๆ คือ ลูกสะใภ้ โดยตนเองต้องแอบเอาของกินของใช้ไปให้ เพื่อไม่อยากมีปัญหากับ 2 ผัวเมียคู่นี้ โดยได้แต่ประสานกับเจ้าหน้าที่ อสม.ให้มาช่วยกันดู และซึ่งตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นเรื่องที่เป็นแบบนี้ ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงสงสารยายลักษณ์ ที่ต้องมาโดนแบบนี้ และเมื่อเร็วๆ นี้ ยายลักษณ์ ได้คลานลงมาจากชั้น 5 เพื่อมาหา โดยบอกว่าจะขออาศัยอยู่ด้วย ซึ่งน่าจะถูกทำร้ายหนักหน่วงถึงได้กลั้นใจคลานลงมา แต่ตนเองได้ปฏิเสธไปเพราะกลัวจะมีปัญหากับลูกชายและลูกสะใภ้ของเขา แต่พยายามแอบให้การช่วยเหลือตลอดมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม ได้เข้าไปดูอาการของยายลักษณ์ ที่ห้องฉุกเฉินเพื่อตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งทางแพทย์โรงพยาบาลสามพราน ได้ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดและทำการสแกนสมอง เนื่องจากพบแผลฉกรรจ์หลายแห่ง และมีทั้งแผลเก่าและแผลใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมจัดสถานที่ในการพักรักษาตัวและทำการปฐมพยาบาลทางด้านร่างกายและจิตใจให้ โดยไม่มีการส่งกลับไปให้ญาติดูแลเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทราบเพียงว่า ลูกชายของยายลักษณ์ นั้นชื่อนายสุทน พาหา เป็นเจ้าหน้าที่ขับรถของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนลูกสะใภ้ไม่ทราบชื่อ และเป็นคนที่ถูกระบุว่าเป็นคนทำร้ายร่างกาย ยายลักษณ์ บ่อยๆ ทำงานเป็นพนักงานโรงงาน โดยล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมีเพื่อนบ้านได้ทำการสอบถามไปว่า แผลที่ยายลักษณ์ ถูกเย็บมานั้นเกิดจากอะไร ได้รับคำตอบว่า “กูเป็นคนทำเอง” ซึ่งไม่มีใครกล้าไปถามต่อว่าเกิดจากอะไร กระทั่งมีคนมาช่วยในวันนี้

ล่าสุด ผลการตรวจสแกนสมอง ยายลักษณ์ ไม่พบว่ามีเลือดออกจากสมอง แต่บาดแผลตามร่างกายหลายแห่งยังต้องรอว่าเกิดจากอะไร โดยตอนนี้แพทย์ให้นอนโรงพยาบาลอย่างไม่มีกำหนด

ยกมือไหว้ขอโทษ ลูกทำร้ายแม่วัยชรา อ้างทำไปเพราะเมาโมโห ตร.แจ้งข้อหาหนัก

เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ หญิงชราวัย 81 เนื่องจากถูกลูกสะใภ้และลูกชายตบตีทำร้ายร่างกาย

จับแม่วัย 53 ข้อหาจ้างวานฆ่าลูกแท้ๆ ของตนเอง เพราะโดนทำร้ายร่างกาย