ที่ห้องประชุมธนาคาร ธกส.สาขาบ้านตาขุน อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ธนาคาร ธกส.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้เสียหาย ประชุมร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้กับ นางศุภธียา สรรภา อายุ 55 ปี นักธุรกิจค้าไม้ ที่ฝากเงินไว้กับ ธกส.แต่เงินกลับหายไปกว่า 1 ล้านบาท

นางศุภธียา เล่าว่า ได้ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์กับ ธกส.เป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ได้ทำบัตรเอทีเอ็มและธุรกรรมบนมือถือ และฝากถอนโดยสมุดตลอด โดยยอดเงินดังกล่าวฝากไว้ประมาณ 1 ปีและไม่มีการเคลื่อนไหว พอครบสิ้นปีเลยลองปรับสมุดดูเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าเงินในบัญชีได้หายไป 1,020,020 บาท จึงรีบปรึกษากับพี่ชายและเข้าแจ้งความทันที

ส่วน นายพูนศรี ศิริพิบูลวงศ์ พี่ชายของ นางศุภธียา บอกว่า โชคดีที่น้องสาวมาปรับสมุดก่อนจึงพบว่าเงินหาย และดำเนินการระงับได้ทัน ไม่เช่นนั่นเงินคงจะหายหมด ซึ่งมองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะน้องไม่ได้มีบัตรเอทีเอ็มและไม่เคยทำธุรกรรมผ่านมือถือ ฝากถอนด้วยสมุดตลอด ซึ่งวันนี้ต้องการให้ทางธนาคารรับผิดชอบเงินจำนวนที่ได้สูญหายไปจากบัญชีกลับคืนมาตามจำนวนเท่านั้น ส่วนทางธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบว่าใครเป็นคนนำเงินไป ก็ให้เป็นเรื่องของขั้นตอนการสอบสวนของทางธนาคารที่จะดำเนินการตรวจสอบ

ด้าน นายคุ้มพงศ์ ทวิชศรี รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนบน ธกส.ได้เปิดเผยว่า เงินดังกล่าวได้ถูกโอนไปยัง 2 ธนาคาร สามารถดำเนินการอายัติได้ 1 ธนาคาร ก่อนที่เงินจะถูกถอนออกไป ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการค้นหาตัวผู้กระทำผิด พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการดังกล่าว ก่อนจะดำเนินการเยียวยาผู้เสียหายต่อไป

นักธุรกิจค้าไม้ ที่ฝากเงินไว้กับธนาคาร แต่เงินกลับหายไปกว่า 1 ล้านบาท

กรมสรรพากร เตรียมแก้ประกาศเก็บภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์

กรมสรรพากร เตรียมเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% ได้เท่าไหร่โดนหมด