กรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพเหตุการณ์ของหญิงสาวรายหนึ่งจากเฟซบุ๊ก “Watcharaporn Namunpeng” ระบุว่า “เงินเหรียญดำธนาคารบอกไม่เอา เอ๊าาา!!! แล้วใครจะเอาละ ใครที่มีเงินเหรียญดำ เดี๋ยวนี้มีค่าเท่ากับศูนย์นะคะ ใครที่คิดจะเก็บเงินโดยการหยอดกระปุกออมสินระวังด้วยนะคะ การที่เงินเหรียญทับกันนานๆจะทำให้เงินเหรียญดำได้ เอามาฝากธนาคาร เจ้าหน้าที่คัดเงินดำออกค่ะ จากเงินที่มีค่ากลายเป็นไม่มีค่าทันที”

โพสต์โดย Watcharaporn Namunpeng เมื่อ วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม 2018

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ได้รับการเปิดเผยจาก เจ้าหน้าที่สำนักกษาปณ์ ว่า เหรียญที่ชำรุด หรือ เป็นสีดำนั้นทางธนาคารจะไม่รับฝากเงินดังกล่าว แต่ผู้ที่ต้องการฝากเงิน หรือ ผู้ที่มีเหรียญดำจะต้องเดินทางไปที่สำนักกษาปณ์เพื่อแลกเหรียญใหม่ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ที่เรียนเกี่ยวกับวิธีการดูเงินที่ชำรุดหรือมีปัญหามาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถพิจารณาและตีค่าเงินของความเสียหายออกมาได้

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 มาตรา 12 เหรียญกษาปณ์ชำรุดไม่เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เช่น เหรียญกษาปณ์ที่ถูกตัด ถูกตี ลวดลายลบเลือน หรือบิดงอ มาตราที่ 13 ให้กระทรวงการคลังรับแลกเปลี่ยนเหรียญกษาปณ์ชำรุดตาม ซึ่งมีหลักเกณฑ์การพิจารณา คือ 1.เหรียญกษาปณ์ที่ชำรุดที่จะรับแลกเปลี่ยนได้ ต้องเป็นเหรียญกษาปณ์ที่มิใช่เหรียญกษาปณ์ทองคำ เหรียญกษาปณ์เงิน หรือเหรียญกษาปณ์ขัดเงา 2.เหรียญกษาปณ์ที่ชำรุดตาม มาตรา 12 (1) ให้รับแลกเปลี่ยนได้ครึ่งราคาของเหรียญกษาปณ์นั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง 3.เหรียญกษาปณ์ที่ชำรุดตามมาตรา 12 (2) ให้รับแลกเปลี่ยนได้เต็มราคาของเหรียญกษาปณ์นั้นพนักงานเจ้าหน้าที่และสถาน ที่รับแลกเปลี่ยนเหรียญกษาปณ์ชำรุดตามวรรคหนึ่ง (2) และ (3) ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สำนักกษาปณ์ บอกว่า หากเหรียญมีรอยดำ ไม่ควรนำไปทำความสะอาดกับน้ำยาล้างต่างๆ เพราะจะทำให้เหรียญชำรุด และอาจทำให้ลวดลายลบเลือนได้ ฉะนั้นควรนำเหรียญมาแลกด้วยตนเองที่สำนักบริหารเงินตรา ทุกวัน จ. – ศ. เวลา 09.00น. – 15.00น. ภายในกทม. จะอยู่ที่ บางลำภู และ รังสิต ส่วนต่างจังหวัดในภาคเหนือจะอยู่ที่เชียงใหม่ , นครสวรรค์ ภาคใต้จะอยู่ที่สุราษฎร์ธานี , สงขลา และภาคอีสานจะอยู่ที่ขอนแก่น , อุบลราชธานี

ร้านดังรับซื้อเหรียญกษาปณ์หายากชื่อดัง ราคาเกิน 1 ล้านบาท

กรณีเหรียญดำแล้วธนาคารไม่ยอมรับแลก คุณคิดเห็นกันว่ายังไงบ้าง