วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.30 น. ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดตราด นายจเร เศษนิยม หรือคุณปู่จเร อายุ 74 ปี พร้อมด้วย นางสาวอังศิริน เศษนิยม อายุ 19 ปี หลานสาว นายวศิน พงษ์ศิริ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพิสิฏฐ์ สีกากี ประธานสภาทนายความจังหวัดตราด และญาติๆ ของคุณปู่จเร ได้เดินทางมาสำนักงานที่ดินจังหวัดตราด เพื่อรับโอนโฉนดที่ดินกลับคืน หลังถูกพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตราด แอบนำไปจำนองกับนายพิชัย วิสุทธิแพทย์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองเสม็ด

โดยวันนี้ นายพิชัย วิสุทธิแพทย์ ไม่ได้เดินทางมาโอนโฉนดด้วยตนเองแต่ส่งทนายเป็นตัวแทนมา มีการยื่นหนังสือ สัญญาประนีประนอมยอมความ ระหว่างนายจเร เศษนิยม กับนายพิชัย วิสุทธิแพทย์ โดยมีเนื้อหาใจความ ตกลง และยินยอมไม่เรียกร้องสิ่งใดๆ ไม่ติดใจเอาความ ฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา แล้วให้คุณปู่จเร เซ็นชื่อ ทีแรกทคุณปู่จเรจะไม่ยอมเซ็น จนนายพิสิฏฐ์ สีกากี ประธานสภาทนายความจังหวัดตราด ได้พาคุณปู่จเร เข้าไปเซ็นเอกสารการไถ่ถอนโฉนด กลับมาเป็นชื่อของคุณปู่จเร ซึ่งการเซ็นชื่อก็ค่อนข้างลำบากเนื่องจากคุณปู่จเร ไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องให้นางสาวอังศิริน เศษนิยม หลานสาว ต้องคอยบอกอยู่ข้างๆ

หลังจากที่ได้โฉนดที่ดินกลับคืนมา สีหน้าคุณปู่จเร ก็มีรอยยิ้มตลอดเวลา ก่อนจะเดินทางไปยัง สภ.เมืองตราด เมื่อไปถึงห้องพนักงานสอบสวนคุณปู่จเร ได้พบกับ ร.ต.อ.กัณตพล สักขาพรม พนักงานสอบสวน ที่เป็นคนนำโฉนดคุณปู่จเรไปจำนอง ซึ่ง ร.ต.อ.กัณตพล ได้เดินเข้ามากราบที่ตักของคุณปู่จเรพร้อมกล่าวคำขอโทษ

จากนั้นได้พากันขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 2 เพื่อทำการแถลงข่าวและมอบโฉนดที่ดินคืนนายจเร เศษนิยม อย่างเป็นทางการ โดยมี พ.ต.อ.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว. ตราด พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองตราด นายวศิน พงษ์ศิริ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพิสิฏฐ์ สีกากี ประธานสภาทนายความจังหวัดตราด นายสมบูรณ์ แพทย์นุสนธิ์ กำนัน ต.เนินทราย และญาติๆ ของผู้เสียหาย เข้ารับฟังการแถลง

พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองตราด กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า การที่ ร.ต.อ.กัณตพล สักขาพรม พนักงานสอบสวนได้เอาโฉนดของ นายจเร เศษนิยม ไปจำนองในครั้งนี้ ทราบว่า นายสุภัทร วงษ์ทอง ซึ่งเป็นญาติที่ไปขอความช่วยเหลือคุณปู่จเร ได้ร่วมมือและรู้เห็นด้วย ซึ่งที่จริงแล้ว คดีของนายสุภัทร วงษ์ทอง เป็นคดีบุกรุกยามวิกาลและอนาจาร คดีนี้ พนักงานสอบสวนได้ใช้วิธีการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่ได้มีการประกันตัวอย่างที่เป็นข่าว ดังนั้น โฉนดฉบับนี้ไม่ได้เป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัว แต่ทั้ง 2 ได้ร่วมกันเอาโฉนดไปจำนอง เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท โดยนายสุภัทร วงษ์ทอง เอาเงินไป 300,000 บาท แล้วให้ ร.ต.อ.กัณตพล สักขาพรม มา 200,000 บาท

“จึงมีความผิดในข้อหาร่วมกันหลอกลวง ฉ้อโกงทรัพย์คนอื่น หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญาที่ยอมความได้ ซึ่งอยู่ที่คุณปู่จเรจะเอาผิดหรือไม่ ถ้าจะเอาผิดก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนได้เลย ส่วนนายสุภัทร หลังเกิดเหตุ ได้หายตัวไปยังไม่สามารถติดต่อได้”

ด้าน พ.ต.อ.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.ตราด เผยว่า พนักงานสอบสวน มีหน้าที่ดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน แต่กลับทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในส่วนของความผิดทางวินัย จะตั้งกรรมการสอบสวน และให้ออกจากราชการไว้ก่อน จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น

ในส่วนของผู้เสียหาย จะดำเนินคดีหรือไม่นั้น นายจเร เศษนิยม ได้มอบให้นางสาวอังศิริน หลานสาว เป็นคนตัดสินใจ โดยจะปรึกษากับนายพิสิฏฐ์ สีกากี ประธานสภาทนายความจังหวัดตราดต่อไป

ข้อมูลจาก Thairath

ให้ออกราชการ ตำรวจหลอกเอาโฉนดคุณปู่ไปจำนอง พบไม่มีการประกันตัวจริง