งานนี้หลายคนที่เอาใจช่วย หัวหน้าวิเชียร คงโล่งอกกันไปได้สักทีหลังจากมีการสอบว่ามีความผิดมั้ย ที่ปล่อยให้เจ้าสัวเข้าป่าไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะอนุกรรมการติดตามคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี นัดแรก ภายใต้คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าที่มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน พร้อมกับคณะกรรมการ 12 คน โดยนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ได้เดินทางพร้อมนำเอกสารต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลกับคณะอนุกรรมการฯ ในคดีนายเปรมชัย กรรณสูต บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตทุ่งใหญ่

ก่อนการประชุม พล.อ.สุรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ยืนยันว่าจะต้องนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ พร้อมขอบคุณสังคมและสื่อมวลชนที่ช่วยกันเฝ้าระวังและติดตามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

“พอมีคดีเกิดขึ้นคนกังวลคนรวยทำผิดแล้วจะผิดหรือไม่ ยืนยันว่าคนทำผิด ผิดกฎหมายหมด ตามครรลองของกฎหมาย และคดีนี้มีอะไรเพิ่มเติมจากที่ผ่านมา ประเด็นที่เราตามมา โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับกระทรวงฯ เช่น ที่ดินภูเรือ จ.เลย ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ พร้อมด้วยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้พูดคุยกับนายวิเชียร หารือเกี่ยวกับคดี เบื้องต้นให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ กรณีชิ้นเนื้อเสือดำ และกรณีคดีติดสินบนที่มีข่าวว่าคลิปเสียงอาจจะมีน้ำหนักไม่เพียงพอ และแนะนำว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

สำหรับการประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ กรมอุทยานฯ รายงานความคืบหน้าผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าที่ได้รับจากพนักงานสอบสวน โดยเฉพาะผลการตรวจสอบชิ้นเนื้อสัตว์ป่าที่พบในที่เกิดเหตุ ลำไส้ ขน และกระดูกท่อนหางเสือ เบื้องต้นพบว่าชิ้นส่วนทั้งหมดเป็นเสือดำจริง และเป็นชิ้นส่วนของเสือดำตัวเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีรายงานผลการตรวจสอบงาช้าง 2 คู่ที่ยึดได้จากบ้านของนายเปรมชัย กรรณสูต เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ได้เก็บตัวอย่างนำมาตรวจดีเอ็นเอ สรุปว่าเป็นงาช้างแอฟริกา

แหล่งข่าวจากกรมอุทยานฯ ยืนยันว่า ขณะนี้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และนายวิเชียร กรณีการอนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร สรุปว่าทั้ง 2 คนไม่มีความผิด การอนุญาตเข้าพื้นที่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ เป็นคนละส่วนกับกรณีที่นายเปรมชัย และพวกเข้าไปแล้วไม่ได้อยู่ในจุดที่ได้รับอนุญาต และไปล่าเสือดำและสัตว์ป่า ถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ ซึ่งนายวิเชียร และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้ทำการจับกุมตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงไม่ใช่การละเลยต่อหน้าที่

ส่วนคดีการครอบครองงาช้างแอฟริกา 2 คู่ที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัย สรุปว่ามีความผิด ฐานครอบครองซากสัตว์ป่า หลังจากนี้จะใช้เวลาตามขั้นตอน ยึดงาช้างเป็นของแผ่นดิน คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ และเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ที่มา – ThaiPBS

ทุบ…!! ศาลพระภูมิที่ห้าแยกลาดพร้าว หลังเซ่นไหว้ด้วยกล้วย9ลูก

แม่เด็กที่ทิ้งลูกติดในรถ โวยจะทวงค่าเสียหาย คนที่มาช่วยลูกทำรถเป็นรอย

ผลสอบโต๊ะจีนพลังประชารัฐ ออกแล้ว ไร้ต่างชาติบริจาคเงิน รอดยุบพรรค

คณะอนุกรรมการติดตามคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตัดสิน วิเชียร ไม่มีความผิด