สืบเนื่องจากเว็ปไซต์ชื่อดังอย่าง ซีเอ็นเอ็น ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมของโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินการลบบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กปลอมกว่า 5,400 ล้านรายชื่อในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 3.3 พันล้านรายชื่อเมื่อปี 2561 เฟซบุ๊ก ระบุว่า บัญชีผู้ใช้ปลอมในเฟซบุ๊กนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 5 ของบัญชีที่เปิดใช้ต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันเฟซบุ๊กมียอดผู้ใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านคนต่อเดือน สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของปัญหาในยุคดิจิตอลที่เฟซบุ๊กต้องรับมือ
นายมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเฟซบุ๊ก กล่าวว่า จำนวนที่เพิ่มขึ้นของบัญชีปลอมซึ่งเฟซบุ๊กดำเนินการลบไปในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังของเฟซบุ๊กในการจัดการกับปัญหา
รายงานระบุว่า การลบบัญชีผู้ใช้ปลอมเกิดขึ้นมากที่สุดในช่วงเดือนม.ค. – มี.ค. ปีนี้ โดยเฟซบุ๊กดำเนินการลบไปถึง 2.2 พันล้านบัญชี โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากรายงานประจำปีของเฟซบุ๊กที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเพื่อความโปร่งใส และปีนี้เป็นครั้งแรกที่รวมเอาแอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมเข้ามาด้วย
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการลบข้อความที่สร้างความเกลียดชัง หรือเฮด สปีช บนเฟซบุ๊ก ผ่านระบบอัลกอริธึมที่เฟซบุ๊กเพิ่งเริ่มใช้งานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีข้อความกว่า 7 ล้านประโยคถูกลบเมื่อช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ โดยร้อยละ 80 เป็นการตรวจจับผ่านระบบ ซึ่งเร็วกว่าผู้ใช้แจ้งลบ
ทั้งนี้ การดำเนินการของเฟซบุ๊กเกิดขึ้นหลังเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากรัฐสภาคองเกรสสหรัฐ และหน่วยงานสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ให้จัดการกับปัญหาการสร้างความแตกแยก และการกลั่นแกล้งกันในโลกออนไลน์ นำไปสู่ปัญหาสังคมในวงกว้าง