เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นที่บ้านหนองแวง ตำบลหนองขอนกว้าง อำเภอเมืองอุดรธานี เมื่อศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ได้เงินสดไปจำนวน 700 บาท แต่เคราะห์ร้ายคนร้ายรายนี้ถูกพลเมืองดีตามจับกุมตัวไว้ได้บริเวณแยกนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดอุดรธานี
ข่าวที่น่าสนใจ
พ่อรีวิวเที่ยวดิสนีย์วันเดียว จ่ายเฉียดครึ่งแสน ถาม “นี่มันราคาฝันร้ายชัดๆ!”
ไฟนรกโกดังเครื่องมือช่างจีน! แบตเตอรี่ลัดวงจร? วอด 100 ล้าน!
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อรับตัวผู้ต้องหา ทราบชื่อคือ นายนนทวัฒน์ ชนะชัย หรือโอ๊ต อายุ 23 ปี พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ วัตถุคล้ายอาวุธปืน และเงินสดจำนวน 700 บาท จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาชิงทรัพย์ในเคหสถานและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป
นางอุดมลักษณ์ บุญสุข อายุ 69 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว เล่าด้วยความตกใจว่า ขณะที่ตนเองกำลังนั่งแทะข้าวโพดอยู่ในร้าน จู่ๆ ก็มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน แล้วตะโกนถามว่ามีอะไรขายบ้าง ก่อนจะสั่งก๋วยเตี๋ยวเส้นมาม่า ตนเองจึงรีบทำให้ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคนร้ายเดินลงจากรถ ตรงเข้ามาพร้อมกับยกวัตถุคล้ายอาวุธปืนจี้ แล้วกระชากผ้ากันเปื้อนที่ตนเองใส่ ซึ่งมีเงินสดประมาณ 700 บาทอยู่ในกระเป๋า ก่อนจะรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป นางอุดมลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตอนที่คนร้ายยกวัตถุคล้ายอาวุธมาขู่ ตนเองตกใจมาก คิดว่าเป็นอาวุธจริง จึงพยายามต่อสู้ยื้อแย่งผ้ากันเปื้อน จนกระทั่งล้มลง
“พอโจรมันหนีไป ฉันก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือลั่นเลย อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน จะของจริงของปลอมก็กลัวทั้งนั้น มันกล้ามาชิงเงินกันกลางวันแสกๆ” นางอุดมลักษณ์ กล่าวด้วยความโกรธ
ด้าน นายอนุวัฒน์ ศรีอินทร์ อายุ 23 ปี พลเมืองดีผู้กล้าหาญ ซึ่งเพิ่งปลดประจำการทหารเกณฑ์มาไม่นาน เล่าว่า ขณะที่ตนเองกำลังซักผ้าอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงคุณยายร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่หน้าบ้านร้องขอความช่วยเหลือว่ามีโจรมาปล้นเงิน ตนเองจึงรีบวิ่งออกมาและเห็นคนร้ายกำลังขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
“ตอนนั้นผมไม่ลังเลเลย ตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์ตามไปทันที ระหว่างที่ตามไป คนร้ายก็หันมายกวัตถุคล้ายปืนขู่ไม่ให้ผมตาม แต่ผมก็ไม่ยอม ขับตามห่างๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถของคนร้ายน้ำมันหมด แถวสี่แยกนิคมอุตสาหกรรม ผมก็เลยใจดีสู้เสือ เดินเข้าไปถามว่า ‘มึงไปขโมยเงินร้านก๋วยเตี๋ยวใช่ไหม’ ตอนนั้นผมไม่ได้กลัวอาวุธของมันแล้ว เพราะมีคนเริ่มมาช่วยกันเยอะ แล้วก็ช่วยกันล็อกตัวคนร้ายเอาไว้ได้ ก่อนจะโทรแจ้งตำรวจให้มาจับกุม” นายอนุวัฒน์ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายนนทวัฒน์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ก่อนลงมือก่อเหตุ ตนเองได้ขับรถวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวถึง 2 รอบ เพื่อมองหาเหยื่อ และตัดสินใจเลือกร้านก๋วยเตี๋ยวของคุณยายอุดมลักษณ์ เนื่องจากเห็นว่าอยู่คนเดียว เมื่อได้เงินแล้วจึงรีบขับรถหลบหนี ส่วนวัตถุที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นเพียงของเล่นที่ซื้อมาจากตลาด
ผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมด้วยว่า สาเหตุที่ตัดสินใจกระทำการดังกล่าว เนื่องจากตนเองตกอยู่ในสภาวะที่หมดหนทาง เพราะเป็นหนี้พนันบอลจำนวนหลายหมื่นบาท และคิดไม่ตกว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ได้อย่างไร จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวลงไป พร้อมทั้งยอมรับว่ารู้สึกผิดกับการกระทำของตนเอง และยืนยันว่าพ่อแม่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำครั้งนี้
ขณะที่พ่อของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องที่ลูกชายไปก่อเหตุ แต่โดยปกติแล้วลูกชายเป็นคนขยันช่วยงาน และไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายติดการพนัน ตั้งแต่ลูกชายมีครอบครัวและมีลูกเล็กอายุเพียง 1 เดือน ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากนัก ตอนนี้รู้สึกคิดอะไรไม่ออก และไม่รู้จะทำอย่างไร คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เพราะตนเองก็หมดหนทางที่จะช่วยเหลือแล้วเช่นกัน
