ไฟไหม้โกดังเครื่องมือช่างไร้สายนำเข้าจากจีน ย่านแสมดำ เสียหายกว่า 100 ล้านบาท คาดแบตเตอรี่ลัดวงจร
ข่าวที่น่าสนใจ
อึ้งทั้งโซเชียล! สาวมาเลย์เจาะประตูห้องน้ำเจอเงินกองโต ที่แท้สามีซุกเงียบ
ยูทูบเบอร์สาวคนดัง!! “บีเบล” ประกาศตัวเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว! ลั่น ไม่ขอพูดถึงพ่อของลูก!!
เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังบริษัท ไอแม็กซ์ พาวเวอร์ ทูล จำกัด ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องมือช่าง ตั้งอยู่เลขที่ 15 ซอยแสมดำ 21 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร หลังรับแจ้งเหตุ ร.ต.ท.ธนดล ทองไทย รอง สวป.สน.แสมดำ ได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงและกู้ภัยใกล้เคียง จำนวน 10 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นโกดังชั้นเดียวขนาดใหญ่ 2 หลังปลูกติดกัน พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ภายในโกดังเก็บเครื่องมือช่างไร้สายที่ใช้แบตเตอรี่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าว และเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง แต่เนื่องจากภายในโกดังมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามไปยังโกดังข้างเคียงอย่างรวดเร็ว และโครงสร้างของอาคารโกดังเริ่มทรุดตัวลง ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในที่สุด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เพลิงได้เผาผลาญโกดังทั้ง 2 หลัง รวมถึงส่วนของสำนักงานที่อยู่ด้านหน้าจนเสียหายทั้งหมด โครงสร้างอาคารทรุดตัว อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายภานุพันธุ์ สถิตสุขสมบูรณ์ อายุ 28 ปี ผู้บริหารบริษัท ไอแม็กซ์ พาวเวอร์ ทูล จำกัด ให้การว่า บริษัทของตนดำเนินธุรกิจนำเข้าเครื่องมือช่างไฟฟ้าไร้สายจากประเทศจีน ภายใต้แบรนด์ “โอซูกะ” โดยโกดังดังกล่าวใช้เป็นสถานที่เก็บและกระจายสินค้า มีพื้นที่ประมาณ 1,300 ตารางเมตร สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ต้นเพลิงเกิดจากด้านในของโกดัง ซึ่งเป็นบริเวณที่เก็บเครื่องมือช่างไฟฟ้าไร้สาย และคาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากการลัดวงจรของแบตเตอรี่ ก่อนที่จะลุกลามอย่างรวดเร็วจนไหม้หมดทั้งโกดัง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดการณ์ไว้กว่า 100 ล้านบาท นายภานุพันธุ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองเพิ่งเริ่มทำธุรกิจมาได้ประมาณ 1 ปี และได้ทำประกันภัยอัคคีภัยไว้เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเพลิงสงบลงและอุณหภูมิในพื้นที่ลดลง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป