เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2562 ได้รับร้องเรียนว่ามีเด็กหนุ่มเคราะห์ร้ายวัย 16 ปี ชื่อว่านายนันทวัฒน์ นาวัน ถูกชายทำร้ายร่างกาย โดยการใช้ไม้เบสบอลฟาดเข้าที่ศีรษะอย่างรุนแรง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเลือดคั่งในสมอง เหตุเพียงเพราะไปมองเขาขณะที่กำลังทะเลาะกับภรรยา

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเขตปทุมธานี ช่วงคลอง 13 โดยนายวิษณุ คงดี อายุ 22 ปี เพื่อนของนันทวัฒน์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตน นันทวัฒน์ และเพื่อนอีก 1 คน กำลังเดินทางไปเที่ยวและแวะที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าวเพื่อเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่รอนันทวัฒน์ ออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน น่าจะเป็นสามี-ภรรยา โดยฝ่ายชายพยายามดึงผู้หญิงขึ้นมอเตอร์ไซค์แต่ผู้หญิงไม่ยอม

จากนั้น อยู่ๆ นันทวัฒน์ เพื่อนของตนที่กำลังยืนล้างหน้า ก็ถูกชายที่กำลังทะเลาะภรรยา ใช้ไม้เบสบอลฟาดเข้าที่ขมับด้านขวาจนล้มลงไปนอนกับพื้น วิษณุ และเพื่อนอีกคนที่มาด้วย จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย แต่ในจังหวะนั้น ชายที่ก่อเหตุได้ควักปืนออกมาข่มขู่ พร้อมบอกว่า อย่ามายุ่งเรื่องของผัวเมีย ก่อนจะพาหญิงที่ทะเลาะด้วยขี่รถออกไป

วิษณุ รีบปลุกนันทวัฒน์ ซึ่งมีอาการเวียนศีรษะจนเดินไม่ไหว เพื่อนเล่าให้ฟังว่าตอนที่เขายืนล้างหน้านั้น ได้หันไปมองคู่ชาย-หญิงที่ทะเลาะกัน ก่อนผู้ชายจะตะโกนมาว่า “มองหน้าทำไม” แล้วนันทวัฒน์ ก็ตอบกลับไปว่า “อะไรครับพี่” ก่อนเขาจะเข้ามาทำร้าย โดยที่ไม่มีการทะเลาะวิวาทใดๆ ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ยืนยันว่า นันทวัฒน์ ไม่ได้ไปหาเรื่องอย่างแน่นอน

ภายหลังจากนำตัว นันทวัฒน์ส่งโรงพยาบาล พบว่าได้รับบาดเจ็บรุนแรง มีเลือดออกในสมอง มีอาการสมองบวม เยื่อหูอักเสบ วิษณุ เผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุก็ไปแจ้งความแล้ว แต่เรื่องก็ยังคงไม่คืบหน้า จึงมีความกังวลใจ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางแม่และน้องชายของผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อไกล่เกลี่ยในทางครอบครัวของเพื่อนยอมความ โดยพูดว่าหากไม่ยอมความก็ให้ไปตามหาตัวเอง

ด้าน จงรักษ์ นาวัน แม่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทางครอบครัวคู่กรณีติดต่อมาหาตน บอกว่าให้สงสารเขา เพราะมีลูก-เมียที่ต้องดูแล ตนจึงย้อนไปว่า แล้วถ้าคนที่ถูกทำร้ายเป็นของตัวเอง จะสงสารหรือไม่ ส่วนตัวตั้งใจไม่ยอมความ จะดำเนินคดีถึงที่สุด คนผิดต้องรับโทษ และตั้งแต่ก่อเหตุยังไม่ได้รับคำขอโทษจากเขาเลย

ต่อมาทราบชื่อชายผู้ก่อเหตุคือ เกรียงไกร สร้อยระย้า หรือทิพย์ อายุ 20 ปี โดย ลลิตา ฐานะอิสระ ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เผยว่า จังหวะที่สามีตนทำร้ายผู้บาดเจ็บนั้น ตนไม่ทันได้สังเกต แต่คิดว่าเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น เพราะเขาเป็นคนอารมณ์รุนแรง ไม่ได้มีการเมาหรือเสพสิ่งเสพติดแต่อย่างใด ส่วนไม้เบสบอลก็พกมาจากบ้านเพื่อกันสุนัขกัดระหว่างทาง ไม่ได้ตั้งใจเตรียมนำมาทำร้ายใคร และปืนก็เป็นแค่ปืนอัดลม หลังเกิดเหตุก็พาสามีเข้ามอบตัว ไม่ได้หลบหนี

ขณะที่ทางด้าน วนิดา ชะโลธร แม่ยายของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ลูกเขย เป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด ทำอาชีพรับจ้างแบกถุงน้ำแข็ง มีรายได้แค่วันละ 300 บาท แต่ทางคู่กรณีเรียกร้องเงินค่าเสียหายเยอะเกินไป ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่ารักษาตัว ค่าทำขวัญ ตนไม่มีปัญญาหาเงินไปจ่ายมากมายขนาดนั้น แต่ก็ยืนยันว่าพร้อมจะรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทาง พ.ต.ท.ภุมเรศ อินทร์คง สว.สอบสวน สภ.ธัญบุรี เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ทราบตัวคนก่อเหตุชัดเจน แจ้งข้อหาทำร้ายร่ายกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เตรียมออกหมายเรียกเข้าพบพนักงานสอบสวน ถ้าหากไม่มาเข้าพบก็จะมีการออกหมายจับ อีกทั้งต้องรอสอบปากคำผู้เสียหาย แต่ต้องรอให้อาการบาดเจ็บดีขึ้นก่อน

สามารถคลิกชมคลิปได้ที่นี่

ภาพและข้อมูลจาก อมรินทร์ทีวี

ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม พ่อโหดทุบตีลูกน้อยวัย 2 ขวบ

กอล์ฟ โจรปล้นรถขนเงิน ยิงต่อสู้กับตำรวจจนถูกวิสามัญ แม่โจรเชื่อลูกไม่ได้ทำ

ยายวัย 72 ถูกข่มขืน ฆ่าโหด ในสวนปาล์ม พบฝีมือคนงานมอญ ด้านตาสุดช้ำ ลั่นต้องประหาร

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยกลโกงในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุในสังกัดกรมราชทัณฑ์

เหตุการณ์เด็กขับหนีตำรวจกระจ่างแล้ว ตำรวจไม่ได้ถีบรถ เด็กยอมรับขับหนีเสียหลักล้มเอง

โหด ฆ่ากลางเที่ยงวัน หักล้างแค้น ปมธุรกิจมืดและแค้นส่วนตัว

สลด! นิสิตสาวปี 4 ม.ดัง ป่วยซึมเศร้า ดิ่งตึก 12 ชั้น ดับในมหาวิทยาลัย

หนุ่มขับรถบรรทุก โพสต์โชว์ดื่มเบียร์ขณะขับรถ คุยโวเมาแล้วขับได้

กัปตันหนุ่มใหญ่ การบินไทย เลือดร้อน ตบหัวสจ๊วต เพราะโมโหหิว

เกิดเพลิงไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย จังหวัดมหาสารคาม

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีซื้อขายที่ดินอัลไพน์