เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 26 พ.ค. 62  เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.สนิท นุ้ยพิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ชนไฟสัญญาณจราจร และ เสาไฟฟ้า ที่สามแยกวังตะกอ หมู่ที่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน

ที่เกิดเหตุบนถนนเอเชีย 41 ขาขึ้น กทม. พบว่าที่สามแยกวังตะกอ ซึ่งเป็นสามแยกจากถนนเอเชีย จ.ชุมพรไป จ.ระนอง มีเศษชิ้นส่วนของเสาไฟจราจร ล้มระเนระนาดขวางเส้นทาง ห่างออกไป พบรถกระบะสายตรวจ สภ.เมืองสุราษฏร์ธานี ทะเบียนตราโล่ 17240 ในสภาพอัดติดกับเสาไฟฟ้า พังยับเยิน ด้านหน้ารถยุบเกือบถึงห้องโดยสาร ตัวรถหักครึ่งกลาง

ใกล้กันพบนายอัครเดช ปาละแก้ว อายุ 20 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีอาการคล้ายคนเมายาเสพติดอย่างหนัก พูดจาวกไปวนมา  อ้างว่าผู้ที่ขับรถยนต์สายตรวจจราจรสุราษฏร์ เป็นตำรวจ ชื่อ ร.ต.ท.อัครเดช  ซึ่งเป็นพี่ชาย จะขับรถไปส่งบ้าน ที่ จ.เลย แต่ไม่รู้หายไปไหน คาดว่าน่าจะกระเด็นออกนอกรถ

หน่วยกู้ภัยหลังสวน ได้ออกค้นหาในคูระบายน้ำริมถนน แต่ไม่พบ แต่เมื่อตรวจภายในห้องโดยสาร  พบรองเท้าของนายอัครเดชหล่นอยู่ในจุดที่นั่งคนขับ จึงเชื่อว่า นายอัครเดช ขับรถยนต์มาเพียงลำพัง ตรวจค้นกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง ของนายอัคร พบวิทยุสื่อสารของตำรวจ จำนวน 4 เครื่อง บัตรประชาชนของผู้หญิง อีก 2 ใบ อุปกรณ์เสพยาบ้า

ต่อมาศูนย์วิทยุ สภ.หลังสวน ได้รับแจ้ง จากศูนย์วิทยุ 191 สุราษฏร์ธานี ให้ช่วยสังเกต รถกระบะตราโล่  สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เนื่องจากมีคนร้ายขโมยไปจากป้อมตำรวจ ใจกลางเมืองสุราษฏร์ธานี และยังรื้อค้นทรัพย์สินจนกระจัดกระจาย ตำรวจหลังสวน จึงแจ้ง ตำรวจสุราษฏร์ว่า พบรถสายตรวจที่ถูกขโมยมา อยู่ในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ห่างจากป้อมตำรวจสุราษฏร์ธานี ถึง 100 กม.

นายอัครเดช ยังให้การวกไปวนมาว่า พึ่งพ้นโทษจากเรือนจำได้เพียง 3 วัน ในข้อหาค้ายาบ้า และต้องการเดินทางกลับบ้านที่ จ.เลย โดยเสพยาเสพติดจำนวนมาก ก่อนจะเดินไปป้อมตำรวจ และเห็นกุญแจรถยนต์ตำรวจเสียบคาอยู่ จึงขับรถออกมา ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว