เรียกได้ว่าเทรนด์การออกกำลังกาย กำลังเป็นกระแสฟีเวอร์ โดยเฉพาะหนุ่มๆ สาวๆ ที่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง ล่าสุดมีคุณพ่อวัยย่างเข้ากลักสี่ แชร์ประสบการณ์บนเว็บไซต์พันทิป “ภรรยากับน้ำหนักที่หายไป” จากหนุ่มน้ำหนักกว่า 100 กก. เปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองให้ฟิตแอนด์เฟิร์มได้ภายในระยะเวลาไม่นาน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 21 พ.ย.ได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายอัยยะ ไอยะรา อายุ 37 ปี คุณพ่อคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนมีภรรยาอายุ 31 ปี และมีลูกสาวน่ารักวัย 4 ขวบ “น้องไอจัง” ในอดีตก็เป็นพ่อที่อ้วนๆ ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ถ้าวันไหนกินไม่อิ่มถือว่าใช้ชีวิตไม่คุ้ม หรือเพียงแค่ได้ยินชื่อเมนูดูดี ก็ตัดสินใจขับรถจากบ้าน 200 กม. เพื่อไปลิ้มลอง และไม่ได้มีปัญหากับความอ้วน สามารถทำน้ำหนักทะลุ 100 กก. จนลูกสาวตัวน้อยให้ฉายาว่า “ปะป๊าอ้วน” โดยอ้วนมาตั้งแต่สมัยเรียนอายุ 20 ปี เคยพยายามลดหลายครั้ง เพราะผลตรวจร่างกายพบว่า “ไขมันพอกตับ” ทุกปี ช่วงหลังๆ พบ “หมอนรองกระดูกเสื่อม” แต่ก็ยังคิดว่ายังไม่ได้ตายซะหน่อย กระทั่งกลางปี 59 ภรรยากลับตรวจพบ “มะเร็งปอด” ทั้งที่ไม่ทานเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ในที่สุดก็จากไปหลังจากที่ตรวจพบได้ 4 เดือน
“ไม่เคยคิดว่าต้องมาเจอแบบนี้ ผมรักภรรยามาก ขนาดแต่งงานกันมานานยังโทรหากันทุกวัน อยากได้ยินเสียงเธอ เสียงลูก รวมถึงคำถามใครจะตายก่อนกัน ก็ต้องเป็นผมแน่ เพราะทั้งอ้วนมีแต่โรค แต่คนที่ผมคุยด้วยทุกวันหายไปแล้ว ผมจะคุยเรื่องหนักๆ กับใครดี เด็ก 4 ขวบเหรอ ผมซึมเศร้าและผมไม่อยากมีชีวิตอยู่ ร่างกายจิตใจทรุดโทรม ในที่สุดผมเริ่มยกเวทเพราะอยากมีแรง แรกๆ ล้าไปทั้งแขน จนผมเริ่มวิ่งได้ ฝนตกผมก็วิ่งตากฝน วันไหนเลิกงานดึก ผมก็วิ่งมันทั้งดึกๆ และนอนเร็วเพื่อตื่น 04.00 น. มาวิ่ง” นายอัยยะ ระบุ
คุณพ่อรายนี้ ยังเผยอีกว่า ผ่านไป 8 เดือนหน้าเรียวและไขมันใต้คางก็ไม่เหลือ และเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังเดือนก.พ.-ต.ค. ขณะนี้น้ำหนัก 71 กก. ไม่ซึมเศร้าเหมือนแต่ก่อน เพราะมีเป้าหมายไม่ท้อแท้และมีลูกเป็นกำลังใจ แม้วันนี้จะไม่มีภรรยาอยู่ข้างๆ ก็ตาม ทั้งนี้ผลลัพธ์ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งตนไม่ได้ต้องการหุ่นนายแบบหรือซิกแพ็ค แต่ทุกเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายที่มากเกินไปคือเสี่ยงก่อโรค ตนแค่ไม่อยากเป็นโรค แต่อยากดูแลลูกสาวไปนานๆ ตามคำสั่งเสียของภรรยา
“จริงอยู่ที่ว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมด ไม่ได้การันตีว่าผมจะอยู่ได้จนแก่ วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 1 ปีที่ภรรยาผมจากไป ผมเขียนกระทู้นี้เพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่เคยสูญเสียได้ก้าวผ่านมันไปให้ได้ และเป็นแรงบันดาลใจให้คนหันมาดูแลสุขภาพ จากวันนี้เป็นต้นไปผมไม่เคยลืมอดีต แต่ผมเลือกที่จะไม่จมไปกับมัน” นายอัยยะ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา – เดลินิวส์