จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพและข้อมูลของ อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ “Paothong Thongchua” ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม ระบุข้อความทำนองว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในประเทศจอร์แดนเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ไปขีดเขียนภาษาไทยบนก้อนหินของผาในทะเลทรายวาดิรัม โดยมีการระบุชื่อโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ และคำอื่น ๆ พร้อมวันที่ 20-11-2017 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะเป็นถึงแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสต์ที่มีภาพสลักหิน และภาพลายเส้น อายุกว่า 2000 ปี ตามที่ปรากฏมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ปรากฏว่าในเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ได้มีการโพสต์ข้อความทำนองว่า ทางโรงเรียนรับทราบในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว รวมทั้งติดต่อไปยังผู้ที่เขียนข้อความดังกล่าว พบว่า…เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศจอร์แดนโดยเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้บริหารโรงเรียนแต่อย่างใด ทางผู้บริหารเองก็ได้เเนะนำเเละตักเตือนนักเรียนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ผู้เขียนเองก็ยอมรับผิดและพร้อมจะลบข้อความดังกล่าว โรงเรียนขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอให้หยุดแชร์ภาพและข้อความด้วย
ภายหลังจากมีการชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วปรากฏว่า มีคนเข้าไปโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยหลายรายยังไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือศิษย์เก่าและเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปสอบสวนดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นการทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายมาก และบางรายเห็นว่าควรให้เร่งดำเนินการทำความสะอาดด้วยวิธีที่ถูกต้อง ไม่กระทบกระเทือนต่อก้อนหินในแหล่งเที่ยวทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งเผยแพร่ภาพหลังจากทำความสะอาดแล้วให้เห็นกันด้วย
ต่อมาเวลา 12.30 น. วันเดียวกันนี้ คณะกรรมการผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามชายแดนใต้ นำโดย นายนัสรูดิน เล๊ะนุ๊ นายกสมาคมฯ ได้นัดคณะกรรมการพูดคุยประเด็นปัญหา กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลพาดพิงมาถึงการไปดูงานของผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าว ภายหลังนายนัสรูดิน เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบชื่อเสียงของทางโรงเรียน จังหวัดและประเทศชาติ โดยตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับทางผู้บริหารที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่ามีการไปทัศนศึกษาที่ประเทศจอน์แดนจริง
ทั้งนี้ได้มีศิษย์เก่าที่เรียนอยู่หลายสิบคนนำพาไปทัศนศึกษาหลายแห่ง จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ทางผู้บริหารรู้สึกตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าการเที่ยวปกติจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หลังจากสอบถามข้อเท็จจริงแล้วทราบว่าเป็นฝีมือศิษย์เก่า จึงได้แนะนำให้ไปรีบไปลบให้เรียบร้อย ขอโทษคนไทยทุกคนด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางไปแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ให้ถูกต้อง.
ที่มา – เดลินิวส์