เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 มีรายงานว่า มีหญิงชราตาบอดทราบชื่อต่อมาคือ นางบุญเรือง ศิริเวช อายุ 68 ปี ได้เดินทางมายังเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อติดตามหาลูกสาวคนเล็กที่มาทำงานในเมืองพัทยา แล้วได้ขาดการติดต่อไปซึ่งได้ออกตามหามา 2 วันแล้ว แต่ก็ไม่พบจนเงินที่นำติดตัวมาหมดไป ซึ่งนางบุญเรืองเปิดเผยว่า ตนเองมีลูกทั้งหมด4 คน คนแรกชื่อ สุดใจ หรั่งทองหลาง อายุ 49 ปี คนที่สองชื่อนายสมจิตร หรั่งทองหลาง อายุ 46 ปี คนที่สามน.ส.รัญจวน อายุ 40 ปี และคนที่สี่ น.ส.เจนจิรา หรั่งทองหลาง หลังจากที่ตนเองได้เลิกรากับสามีเก่าก็ไม่สามารถติดต่อลูกทั้ง 4 คน ได้อีกเลยเป็นเวลากว่า17 ปี แต่เคยได้มาเจอกับลูกสาวคนเล็กที่พัทยาเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วหลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อไปโดยไม่ทราบสาเหตุไม่รู้ชะตากรรมของลูกทั้งหมดเลย
ซึ่งนางบุญเรือง แม่เฒ่าวัย 68 ปี มีอาการเป็นต้อตาบอดสนิทเห็นเพียงแสงจากไฟริบหรี่เท่านั้น ไม่มีแม้บัตรประจำตัวประชาชนจึงไม่สามรถเข้ารับการรักษาตามสิทธิ์รักษา 30 บาท รวมไปถึงไม่สามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ ถือเพียงเอกสารเก่าๆ ขาดเป็นชิ้นๆ ที่ระบุชื่อลูกรักทั้ง 4 คน มาเท่านั้นซึ่งตนเองก็ไม่รู้วาจะใช้ชีวิตอยู่ได้นานสักแค่ไหนเพียงบันปลายชีวิตอยากพบลูกๆ ทั้ง 4 คน ซึ่งคนแรกและคนที่สามได้ไปอยู่ต่างประเทศคนที่สองอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ส่วนคนสุดท้องรู้เพียงทำงานในเมืองพัทยาเท่านั้น
หลังจากทนความคิดถึงลูกไม่ไหว จึงได้ตัดสินใจให้นายสุริยา พันสิงห์ สามีใหม่ ขี่จักรยานยนต์เก่าๆ จากจังหวัดสระแก้วมายังเมืองพัทยา หวังว่าจะได้พบกับลูกสาวคนสุดท้องอย่างไม่มีจุดหมายจนเงินที่พกติดตัวมาก็หมดลงรถจักรยานยนต์ก็พังโชคดีที่ยังมีผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ จนเดินทางเข้ามาขอพักที่สถานีตำรวจเมืองพัทยา
ทั้งนี้ นางบุญเรืองกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ได้เจอลูกๆ บ้างถึงแม้ลูกจะไม่อยากให้แม่อยู่ด้วยก็ไม่เป็นไรขอให้มาซื้อที่ปลูกบ้านให้มีที่ซุกหัวนอนบ้างเท่านั้น
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชลบุรี