เพื่อนบ้านยืนยัน “ลุงขายโจ๊ก” เป็นคนดี มีน้ำใจ ขี้เกรงใจ ไม่ได้หนีไปไหน เพียงแต่ช่วงนี้เครียด เหตุมีสื่อมวลชน หน่วยงานต่างๆเข้ามาสอบถามทุกวัน แจงรถเก๋งมารับเป็นเพียงคนบริจาครถเข็นขายโจ๊กให้
จากกรณี นายปกครอง ไทยสมาน หรือ ลุงขายโจ๊ก อายุ 78 ปี ถูกเผยแพร่เรื่องราวชีวิตสุดแสนรันทดผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ขายโจ๊กได้กำไรไม่กี่ร้อยบาท ทำให้หลายคนสงสารจึงได้โอนเงินเข้ามาช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ได้หายตัวไป โดยมีเพื่อนบ้าน เผยว่า มีรถยนต์มารับไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 4 ส.ค. ท่ามกลางกระแสสังคมออนไลน์ ที่เริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ลุงขายโจ๊กอาจจะสร้างเรื่องขึ้นมา เรียกความสงสารเพื่อต้องการรับเงินบริจาคหรือไม่
ความคืบหน้าล่าสุด วันทึ่ 6 ส.ค. นายสุนีย์ ห่อหุ้ม อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านตาขายโจ๊ก เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเห็นคลิปในโซเชียล มีเพื่อนบ้านกลุ่มหนึ่งออกมาต่อว่า ตาเคนนั้น ตนอยากจะชี้แจงว่า ระหว่างที่ตาเคนอาศัยอยู่ที่นี่ ตนก็ได้ให้ความช่วยเหลือ ให้ใช้ไฟ และห้องน้ำที่บ้านได้ตามสะดวก ซึ่งตาเคนก็จะมีนิสัยขี้เกรงใจทุกครั้ง เขาเป็นคนมีน้ำใจมาก ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ก่อนทำกับข้าวที ก็จะแบ่งปันให้กับคนในละแวกนี้ตลอด เคยซื้อของมาให้ แต่ตาก็ทอนเงินทุกครั้ง ไม่เคยคดโกงเลย นิสัยที่หลายคนบอกว่ากะล่อน จึงไม่เป็นความจริงแน่นอน ยอมรับว่าอาจจะมียืมเงินบ้าง แต่คนยืมไม่กี่บาท เพราะว่าตาเป็นคนขี้เกรงใจ
“ส่วนรถเก๋งที่มารับตาเมื่อวานนั้น เป็นรถเก๋งของพลเมืองดี ที่อยู่แถวนี้ เขารับตาไปดูรถเข็น ว่าจะเอาคันไหน เนื่องจาก เขาจะบริจาครถเข็นให้ตาเคน ไว้สำหรับขายโจ๊ก ไม่ได้หนีไปไหน เมื่อคืนประมาณ 4 ทุ่ม มีวัยรุ่นเห็นว่าตาเคนนั่งอยู่ใต้สะพาน เลยไปถามว่าทำไมถึงไม่ยอมเข้าบ้าน ตาบอกว่าเจ็บตา เจ็บขาเดินไม่ไหว ทางภรรยาของผมไปรับมา ทราบว่า ตาไม่หาหมอ กลับมาช้าเพราะตาเริ่มมองไม่เห็นแล้ว “ นายสุนีย์ กล่าว
นอกจากนี้เพื่อนบ้าน ยังยืนยันอีกว่า ลุงขายโจ๊ก เป็นคนดี มีน้ำใจ และเป็นคนขี้เกรงใจ เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ไม่เชื่อว่าลุงจะโกงเงินบริจาคหรือหลบหนีไปอยู่ที่อื่น เพียงแต่ช่วงนี้ลุงอาจเกิดความวุ่นวายใจ จึงขอไปพักที่อื่นก่อน แต่จะกลับมานอนที่บ้านอย่างแน่นอน
ทั้งนี้จากคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของสาวใหญ่รายหนึ่ง ที่ระบุว่าเป็นคนช่วยเหลือลุงเป็นคนแรกและกล่าวพาดพิงถึงลุงขายโจ๊กนั้น เพื่อนบ้านระบุว่า เป็นเรื่องของผลประโยชน์ ที่หญิงรายดังกล่าวไม่ได้ตามที่ต้องการ เนื่องจากเมื่อก่อนเคยขอความช่วยเหลือจากลุงมาโดยตลอด และยังเคยเอากับข้าวแกไปกินแต่ไม่ยอมจ่ายเงินให้แกอีกหลายครั้ง ขณะนี้ล่าสุดหญิงรายดังกล่าวได้มารื้อผ้าใบที่มุงหลังคาบ้านลุงออกทั้งหมดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ปัจจุบันบัญชีของตาเคน ยังไม่ได้ปิดลงแต่อย่างใด และยอดเงินบริจาคยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ยอดเงินบริจาคอยู่ที่ 4 ล้านบาทแล้ว แต่ยังไม่พบว่ามีการถอนเงินออกจากบัญชีแต่อย่างใด