เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ป พร้อมนางวรรณพร เกษมศักดิ์ มารดาของ นางสาวอภิญญา (น้องบุ๋ม) เหยื่อโอเล่ หวานเจี๊ยบ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบหลักฐานสำคัญ

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ สน.เพชรเกษม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางวรรณพร เกษมศักดิ์ และ นายปวินท์ เกษมศักดิ์ พี่ชายของ น.ส.อภิญญา เกษมศักดิ์ หรือ น้องบุ๋ม ผู้เสียชีวิต ที่ถูก นายกฤษณะโชค ชัยชนะ อายุ 30 ปี หรือ โอเล่หวานเจี๊ยบ เดินทางเข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติม ขอให้มีการแจ้งความข้อหาเอาผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ซึ่งมีอัตราโทษประหารสถานเดียว

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานที่เป็นคลิปจากโทรศัพท์มือถือของ นายกฤษณะโชค ซึ่งเป็นคลิปขณะที่ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งมีลักษณะข่มขู่ด้วย จึงคิดว่าคลิปดังกล่าวนี้นายกฤษณะโชคใช้สำหรับข่มขู่ ไม่ให้ น.ส.อภิญญา เลิกรากับตนเองไป วันนี้จึงมาแจ้งข้อหาเพิ่ม เพราะน้องโดนกระทำอย่างต่อเนื่องมายาวนาน

ด้าน นายปวินท์ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแบ่งทรัพย์สินกัน ซึ่งเราจำได้ว่าน้องมีโทรศัพท์ 3 เครื่อง แต่ว่าไม่รู้ว่ามือถือนั้นอยู่ที่ไหน จนกระทั่งตำรวจเอามามอบให้เรา เราก็กำลังตรวจสอบมือถืออยู่ เพราะว่ามันมีรูปส่วนตัวของน้อง ที่ไม่อยากเปิดเผยอะไรจึงได้ลบ แต่ว่ามีมือถือเครื่องหนึ่ง ที่ทางครอบครัวของฝั่งนายกฤษณะโชค ต้องการจะเอามือถือเครื่องนั้นคืน ตนเลยรู้สึกเอะใจว่าทำไมถึงอยากได้คืนนัก ตนเลยเปิดดูว่าในโทรศัพท์เป็นยังไงบ้าง

นายปวินท์ กล่าวต่อว่า พอเปิดมือถือไป ก็เห็นว่ามีคลิปที่นายกฤษณะโชค ใช้แบล็คเมล์น้องสาวตนถูกลบทิ้ง ไฟล์อยู่ในถังขยะ และมีบางไฟล์ที่ยังไม่ได้ลบด้วย เมื่อเราเปิดดู ก็เห็นว่าเป็นคลิปที่มีบางถ้อยคำที่มีการง้องอน และข่มขู่กันบ้าง ตนจึงเข้าใจว่า คลิปนี้ นายกฤษณะโชค น่าจะเก็บไว้แบล็คเมล์ไม่ให้น้องหนีไปไหน นี่คือสาเหตุที่อาจจะทำให้น้องหนีไปได้แค่ 2-3 วัน ก็กลับมาหากันอีก ทางครอบครัวคิดว่าทางฝั่งของ นายกฤษณะโชค น่าจะทราบว่ามีคลิปนี้อยู่ จึงได้พยายามขอเอามือถือไป

“ทางครอบครัวอยากให้มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะอยากรู้ว่าเค้าทำอะไรกับน้องเราบ้าง น้องคบกันมาประมาณ 2 ปี แล้ว ไม่เคยพามาเปิดตัวเลย เพราะทางครอบครัวไม่อยากจะคุยด้วย เนื่องจากว่า เราเคยเห็นเค้าคบกับแฟนเก่า แล้วก็ทุบตีเหมือนกัน แล้วหนีออกมาได้ แต่น้องของเราหนีไม่ได้ เราอยากให้ตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามกฎหมายมาตรา 289(5)“ นายปวินท์ กล่าว

ด้านนางวรรณพร มารดา กล่าวว่า เท่าที่รู้ลูกสาวคบกับ นายโอเล่ ผู้ต้องหา ได้ประมาณ 2 ปีกว่า และทราบว่านายโอเล่ มีพฤติกรรมก้าวร้าว และมักใช้ความรุนแรง โดยทราบว่าเคยทำร้ายร่างกายแฟนเก่า และทุบตีสุนัขที่เลี้ยงไว้จนขาหักเดินไม่ได้มาแล้ว มีความเป็นคนอยู่บ้างไหม ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ อยากให้ตายแบบทุกข์ทรมาน

ด้าย พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบปากค นายกฤษณะโชคำ รับสารภาพว่าทำร้ายร่างกาย เพราะว่าหึงหวง โดยเบื้องต้นอาการส่วนตัวของผู้ต้องหา ตอนนี้ ทางโรงพยาบาลได้ประสานกับตำรวจมา ว่าผู้ต้องหาอาการดีขึ้น แพทย์อายุรกรรมตรวจสอบแล้วไม่น่าจะมีอะไรวิตกกังวล

ในช่วงบ่ายของวันนี้ แพทย์จิตเวชจะมาดูอาการสภาพจิตใจอีกครั้ง เพราะว่าการที่ผู้ต้องหาต้องการฆ่าตัวตาย คือมีปัญหาทางจิต ถ้าแพทย์จิตเวชประเมิณแล้ว ว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลภายในวันนี้ได้ พนักงานสอบสวนจะรีบคุมตัวไปฝากขัง ที่ศาลอาญาธนบุรี แต่หากเกินเวลา 16.30 น. ทางพนักงานสอบสวนจะนำ ผู้ต้องหามาฝากขังที่ สน.เพชรเกษม ก่อนที่จะส่งตัวไปฝากขังในวันพรุ่งนี้เช้า

พ.ต.อ.วุฒิชัย กล่าวต่อว่า เบื้องต้น ตอนนี้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แต่หากว่าทางครอบครัวของผู้ตายนำหลักฐานมามอบให้กับตำรวจ ก็จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ว่าสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้หรือไม่ และจากประวัติที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ.2551 มาแล้ว