เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รถยนต์พุ่งชนนักปั่นสูงวัยออกกำลังยามเช้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำเครื่องตัดถ่างตัดหลังคารถออก เพื่อนำศีรษะของลุงนักปั่นออก หลังติดคาอยู่ที่กระจกด้านหลังรถ

เมื่อเวลา 06.40 น. วันที่ 12 พ.ย.62 ร.ต.อ.ชนวีร์ ชุมจุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานมีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนสายตรัง – ปะเหลียน หน้าสวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) พื้นที่ หมู่ 2 ต.ทุ่งค่าย หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง อ.ย่านตาขาว หน่วยกู้ชีพสมาคมร่วมใจ เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบนถนนห่างจากจุดกลับรถประมาณ 50 เมตร พบชาวบ้านยืนดูเหตุการณ์จำนวนมาก พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 7กฬ 2870 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างเกาะกลางถนนสภาพรถพังยับ หลังคาหน้ารถยุบลง กระจกด้านหน้าและหลังรถแตก ทราบชื่อคนขับ นางสงบ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ชาวบ้าน อ.เมือง จ.ระนอง เป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี ยืนรอให้การกับตำรวจด้วยสีหน้าอาการเคร่งเครียดในที่เกิดเหตุ

ใกล้กันพบรถจักรยานของผู้ตายสภาพบิดเบี้ยว และห่างออกไปพบเบาะจักรยานหลุดกระเด็นออก หมวกกันน็อกและชิ้นส่วนอื่นๆ กระจายเกลื่อนพบร่างผู้เสียชีวิตบนกระจกรถด้านหลัง ทราบชื่อ นายบำรุง โพธิ์ธารารัตน์ อายุ 76 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ทำธุรกิจค้าขาย สภาพศพสวมชุดนักปั่นจักรยาน นอนหงายเท้าพาดอยู่บนท้ายรถติดกับกระจกหลังที่แตกละเอียด ศีรษะมุดเข้าไปภายในห้องโดยสาร พบกองเลือดไหลหยดอยู่เป็นทางยาว มีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุดทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เร่งช่วยเหลือแต่เสียชีวิตลงในที่สุดก่อนนำร่างไปชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ย่านตาขาว

จากการสอบถาม นายคณิต ฉิมฉ่ำ อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เป็นญาติกับผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตปั่นจักรยานออกกำลังกายเป็นประจำทุกเช้า ตอนเกิดเหตุกำลังกลับรถเพื่อกลับไปบ้าน ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. แต่น่าจะไม่เห็นรถที่กำลังขับตามมาจึงชนเข้าไปอย่างจัง ปกติเขาก็จะเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวอะไร และสายตายังดีอยู่

จากการที่ได้สอบถามคนขับรถเก๋ง บอกว่าขณะที่กำลังขับรถผ่านหน้าสวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) ก็เห็นคนปั่นจักรยานเลี้ยวหัวกลับกะทันหันในระยะกระชั้นชิด อีกทั้งจุดดังกล่าวในช่วงเช้ามืดจะมีหมอกที่หนา ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างลำบาก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และถนนสายดังกล่าวผู้ใช้รถใช้ถนนมักจะใช้ความเร็ว และเป็นชั่วโมงเร่งด่วนที่คนออกไปทำงานและส่งเด็กนักเรียน

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนไล่ดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป