จากกรณี คนขับรถแท็กซี่ ขณะขับรถไปรับลูกสาว บริเวณพุทธมณฑลสาย 1 เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ขับมาชนท้าย คู่กรณีจึงโทรศัพท์ตามเพื่อนประมาณ 20 คน มาที่จุดเกิดเหตุ และทำร้ายลูกสาว อายุ 18 ปี ก่อนเข้ามาทุบรถแท็ก ซี่งทางคนก่อเหตุได้ระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่าหมัดไปโดนได้อย่างไรนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเสาธง ได้เข้าจับกุม นายธนากร ภิรมย์ อายุ 23 ปี และนายณัฐวุฒิ รำพึงกิจ อายุ 20 ปี ได้พร้อมกับเพื่อนๆ โดยเจ้าหน้าที่ได้ แจ้งข้อหา 2 ข้อหา คือ “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย” ส่วนนายธนากร ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” เพราะไปทุบรถแท็กซี่
ด้าน น.ส.พานทอง และ น.ส.กชกร ยอมรับว่า รู้สึกกลัวมาก ยืนยันไม่ได้ต่อว่าวัยรุ่นกลุ่มที่มาทำร้ายก่อน ถ้าขณะนั้นไม่มีกู้ภัยเข้ามาช่วย พวกตนคงไม่รอด ถึงรอดแต่ก็เจ็บหนักอย่างแน่นอน
ด้าน นายสมชาย ทรัพย์ธำรงค์ อาสากู้ภัยที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ทางกู้ภัยได้ไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าทางกลุ่มวัยรุ่นที่ขับรถจักรยานยนต์สามารถที่จะลุกเดินได้ ทุกอย่างดูปกติ แต่หลังจากนั้นลุ่มวัยรุ่นที่ตามมาภายหลัง เห็นเพื่อน นอนสลบ เข้าใจว่าเพื่อนที่รถชนนั้น อาการสาหัส ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายณัฐวุฒิ รำพึงจิต หรือ น้องแฟร้ง อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่และชกหน้าลูกสาวของคนขับแท็กซี่ ย่านบางแวก ได้พบกับนายสมคิด (นามสมมติ) อายุ 49 ปี พ่อของน้องแฟร้ง เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ น้องแฟร้ง เล่าให้ตนฟังว่า เพื่อนถูกรถชน ตนจึงได้ถามไปว่า แล้วจะทำอย่างไร ขณะนั้นตนเห็นว่าลูกแสดงอาการเครียดแทนเพื่อน เพราะรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนขับไปชน เป็นรถของรุ่นพี่คนหนึ่งที่ชื่อว่า “อ้วน” ลูกชายเกรงใจรุ่นพี่คนนี้มาก เพราะรุ่นพี่คนดังกล่าวเป็นคนที่ฐานะดีและลูกชายนับถือ ประกอบกับลูกชายเป็นห่วงเพื่อนที่เจ็บ
แต่ที่น้องผู้หญิงหรือลูกสาวคนขับแท็กซี่เจ็บ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นช่วงชุลมุน เนื่องจากคนห้าม นายธนากร เยอะมาก
นายสมคิด บอกอีกว่า ตนคิดว่าอาจจะโดนลูกหลง ซึ่งตนทราบว่า เมื่อคนเราเห็นพ่อโดนต่อย คนเป็นลูกก็ต้องบังไว้ ขณะที่ต่อย มันอาจจะยั้งไม่ทัน ตนก็ยอมรับว่า ไม่ได้ดูคลิปทั้งหมด
ส่วน แฟร้ง ลูกชายตน ยืนยันว่า ต่อยหญิงสาวไป 1 ที และไม่ได้ทำอะไรมาก ตนเชื่อว่าถ้าลูกทำก็ยอมรับอยู่แล้ว และตนไม่รู้จะพูดอย่างไร เนื่องจาก ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เรื่องจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ โดยที่ผ่านมา ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่รักกันมาก ยอมตายแทนกันได้ รวมถึงคนเจ็บด้วย โดยเวลาที่เพื่อนมีเรื่อง นายธนากร ก็จะไม่ยอม ขนาดที่ผ่านมา แฟร้งเคยโดนถีบรถล้ม นายธนากร ยังมาเรียกแล้วก็ออกไปทันที
ทั้งนี้ นายสมคิด ยังระบุอีกว่า ตนรู้สึกเฉยๆกับสิ่งที่ลูกเจอ เพราะคดีไม่ร้ายแรง ไม่ได้ฆ่าใครตาย โดยลูกตนผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ไม่เช่นนั้นตนจะพาทั้งคู่เข้ามอบตัวทำไม ซึ่งอีกคนหนึ่งก็ลูก อีกคนหนึ่งก็เพื่อนสนิทลูก โดยพอเจอเหตุการณ์เช่นนี้ก็พูดไม่ถูก แต่หัวอกคนเป็นพ่อก็รักลูกทุกคน ก็ต้องไปเสียค่าปรับหรือรอขึ้นศาล
ท้ายที่สุด นายสมคิด เข้าใจว่าวัยรุ่นใจร้อนทุกคน เพราะอดีตตนยังเคยใจร้อน “ขนาดยังเคยเอาหัวแม่กดน้ำตายเลย” คำว่าโมโหมันยั้งไม่อยู่ ใครก็ห้ามไม่อยู่ แต่พอโตขึ้นมีครอบครัวก็เริ่มคิดได้
ที่มา – amarintv