จากกรณีข่าว นายอภิชาติ พาโคกทม วัย 45 ปี เจ้าของโรงสี ถูกกระสุนยิงเข้าใบหน้าและหน้าอกกว่า 10 แผลจนเสียชีวิตนั้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ พ.ต.ท. สุรเดช อัฐเสนา รอง ผกก.สภ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบปมสังหารคือความขัดแย้งเรื่องที่ดินตัวเอง ซึ่งขุดเป็นบ่อปลาติดที่ดินผู้ตาย เวลาที่มาจับปลาก็มักถูกอีกฝ่ายต่อว่า ข่มขู่ไม่ให้จับปลาตลอดเวลา โดย พ.ต.ท. สุรเดช อ้างว่าเป็นการป้องกันตัว เพราะอีกฝ่ายกำลังจะชักปืนยิงใส่ วันที่ 6 มกราคม 2563 รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ได้เชิญ คุณจูเนียร์ อรุณวรรณ ภรรยานายอภิชาติ หรือ เฮียชาติ มาพร้อมทนายส่วนตัว
เหตุการณ์ที่เกิดวันนั้น ?
จูเนียร์ : ที่หลังบ้านเป็นที่ของเฮียชาติทั้งหมด 54 ไร่ แล้วจะโอบพื้นที่ที่เขาอ้างว่าเป็นของเขา ของเขามีประมาณ 2 ไร่ ถ้าเฮียชาติไม่เปิดประตูให้เขา หรือไม่ทำถนนให้เข้ามา เขาจะเข้ามาไม่ได้ ที่เขาอ้างว่าเขาขุดบ่อปลาแต่ตรงนี้ไม่ใช่บ่อปลา มันเหมือนที่นาที่ไม่ได้ทำนาแล้วหญ้ามันขึ้น เมื่อน้ำท่วมร้อยเอ็ด ปลามันก็ไหลไป
ที่ดินเฮียชาติเป็นเหมือนไข่ขาว ที่ดินตำรวจเหมือนไข่แดงอยู่ตรงกลาง เขาไม่มีทางเข้าทางออก ทางเฮียชาติเปิดที่ให้เขาเข้า-ออก ?
ทนาย : ทำถนนให้เขาด้วย เพื่อให้มีทางเข้า-ออก
เหมือนเป็นเพื่อนบ้านกัน ไม่น่ามีอะไร ?
จูเนียร์ : ปัญหาเรื่องนี้ เรื่องปลาอย่างเดียวเลย คือวันนั้นคนงานจะไปให้อาหารปลาปกติ ซึ่งปลาเฮียชาติเป็นคนเลี้ยงทั้งหมด ที่เขาบริเวณนั้นเขาขุดบ่อปลารอบที่ดินที่เขาอ้างว่าเป็นที่ของเขา หลังจากนั้นน้ำท่วมมันก็ไหลไป วันนั้นคนงานให้อาหารปลาปกติ แล้วเขาเห็นคนมาจับปลา เขาก็แจ้งให้เฮียชาติทราบว่ามีคนงานมาจับปลานะ เฮียก็ให้คุณแม่ลงไปคุยกับตำรวจให้
ก่อนหน้าเรื่องปลา เคยทะเลาะกันไหม ?
จูเนียร์ : ไม่เคยค่ะ พอแม่ลงไปปุ๊บ แม่ก็กลับมาบอกว่าเขาบอกแม่ให้พาชาติไปคุย เรื่องนี้จะจบเลย ระหว่างที่คุยโทรศัพท์กับหนูว่าให้พาเฮียไปเลย เดี๋ยวจะไปคุย ระหว่างเดินลงไปจากบ้านหลังใหญ่ ก็โทร. หาผู้ใหญ่ ผกก.พิสิษฐ์ ปรึกษาท่าน ท่านบอกว่าให้แจ้งความ และพาตำรวจไปด้วยถ้าจะไปไกล่เกลี่ย ถ้าไปเองมันจะอันตราย เพราะหนูเล่าให้เขาฟังว่าก่อนหน้านี้เคยเจอกันแล้ว 1 ครั้ง ลูกสาวเขาพกปืนตลอด สารวัตรประสิทธิ์บอกว่าแกไม่ได้เข้าเวร แต่เดี๋ยวจะโทร. แจ้งให้ ให้โทร. 191 นะ เดี๋ยวจะให้สายตรวจมา หลังจากนั้นสายตรวจก็มา ตอนนั้นเราจะไปเจรจาแต่เรารอตำรวจก่อน เพราะเขามีปืน ก็ขับรถกันไป ในรถคันนั้นมีเฮียชาติ มีแม่ มีหนูอยู่ข้างหลัง
ในรถกระบะคันนั้นที่ขับไปเป็นฟอร์ด ในรถมีใครนั่งอยู่ ?
จูเนียร์ : มีหนู นั่งหลังคนขับ ข้าง ๆ มีแม่ โดยมีรถตำรวจขับห่างจากเรา ตอนแรกขับห่าง 2 เมตร ช่วงหลังขับห่าง 5 เมตร แต่ก็ติด ๆ กัน ขับตามไปคันเดียว
เฮียชาตินำหน้า คุณนั่งในรถ ตำรวจตามหลังมา บรรยากาศที่คุณถ่ายรูปมาคืออะไร ?
จูเนียร์ : หนูถ่ายรูปเพราะหนูบอกว่า เฮีย เห็นปืนไหม เขาถือปืนออกมานะ ก่อนที่หนูจะเห็นเขาถือปืนออกมา เขาอยู่หลังรถ ทำตะคุ่ม ๆ
รถคันที่เห็นข้างหน้าคือรถผู้ก่อเหตุ และรถตำรวจ ?
จูเนียร์ : เขาเดินออกมาจากคันสีเขียว คันด้านหน้าน่าจะเป็นรถของกลุ่มเขา
กระจกมองหลังที่ถ่ายติดมา คือหน้า ?
จูเนียร์ : เฮียชาติก่อนถูกยิง
ขับไปปุ๊บ เขาลงมาก็ถือปืนแล้ว ?
จูเนียร์ : ค่ะ เขาไปซุ่มอยู่หลังต้นไม้ ถือปืนรอยิงเฮียชาติ เขาเดินอ้อมมาไปซุ่มด้านซ้ายมือรถเขา หนูก็เลยพูดว่า เฮียจะไปอยู่เหรอ เขามีปืนนะ เฮียบอกว่าไม่เป็นไร เราพาตำรวจมาด้วย เฮียชาติจะพุ่งชนเขาไม่ได้ ต้องเลี้ยวโค้ง อ้อมรถเขา ระหว่างนั้นเฮียชาติก็เปิดกระจกลงและเปิดประตู บอกว่ามาคุยกัน คือที่เขาทำแบบนั้นเขาต้องการมาคุยจริง ๆ พาแม่มาคุยด้วย เพราะคนที่ยิงบอกว่าให้แม่ไปเอาลูกชายมาคุย ถ้าเขาจะไปทำร้าย เขาจะลดกระจกให้รู้ทำไมว่าเอาแม่มาด้วย เฮียชาติเปิดประตูขาหย่อนยังไม่ถึงพื้น เขาก็ถือปืนลูกซองยาว เขาบอกมึงจะคุยเหี้..อะไร พร้อมกระชาก แล้วก็ยิงโดนแขน แม่ก็กอดเฮียชาติถามว่าจะยิงทำไม ไหนบอกให้พาลูกชายมาคุย ทำไมทำแบบนี้ หนูก็ร้อง
แม่อ้อมมากอดเฮียชาติ ?
จูเนียร์ : เอามือโอบลูก เอาตัวมาบัง เขาก็ไม่หยุด หนูได้ยินโป้งที่ 2 เข้ามา เฮียชาติก็ทับแม่เลย (เสียงสั่น) หลังจากนั้นหนูก็เปิดประตูลงไป เขาก็กระชากครั้งที่ 3 อีก บอกว่าถ้ามึงไม่ตายก็ไม่จบ หนูก็เลยร้องขึ้นว่าหนูพาตำรวจมาด้วย ตอนนั้นหนูโทร. 1669 แล้ว หนูก็วิ่งไปหาตำรวจ วิ่งมาหลบหลังตำรวจ ขณะที่เขาเดินไปแล้ว ลูกสาวเขาเก็บปืนแล้ว เขาถอดเสื้อกันกระสุนแล้ว ถอดแว่น ถอดหมวกแล้วเรียบร้อย ท่ายิงก็พร้อม ย่อเข่าเลย ที่ตำรวจเดินไปคือเขาถอดออกแล้วเรียบร้อย
ยิงนัดแรกโดนแขน แม่ร้องขอชีวิตอย่าทำเลย ไหนบอกแม่ว่าให้เรียกลูกชายมาคุยไง ลูกชายมาแล้ว พ.ต.ท. ไม่ยอมยิงซ้ำอีก ?
จูเนียร์ : แม่ขอชีวิตเขาแล้ว เขายังยิงซ้ำครั้งที่ 2
ในวินาทีนั้น มีคนไปถ่ายตำรวจคนนั้นด้วย เขาบอกเสี่ยเอง เอื้อมมือเหมือนหยิบปืนไปยิงเขา เขาเลยป้องกันตัว ?
จูเนียร์ : ไม่ค่ะ ภาพมีชัดเจน เฮียชาติกำโทรศัพท์ตลอดเวลา ไม่มีทางเอามือไหนไปเอื้อม แม้แต่ตอนตายยังกำโทรศัพท์
เฮียชาติเอาปืนไปด้วยไหม ?
จูเนียร์ : ในรถไม่มีปืนแน่นอนค่ะ เขาพูดว่ามี แต่ความจริงไม่มี
ตำรวจบอกว่าเฮียชาติขับรถจะชนเขา เขาเลยป้องกันตัวเอง ?
จูเนียร์ : ไม่จริงค่ะ ก็ตามภาพเลย รถสองคันเขาจอดเรียงไว้แล้ว แล้วมีรถเขา ตัวเขาเดินออกมาจากรถ ถ้าพุ่งชนมันพุ่งไม่ได้ เราต้องขับไว้ในทางที่เขาวางไว้แล้ว
ทนาย : เขาวางไว้แล้ว บีบให้รถวิ่งเร็วไม่ได้ รถสองคันก็ของเขา
เขาใส่เสื้อเกราะ หมวก แว่น มือซ้ายถือปืนยาว เตรียมมาพร้อม เห็นบอกมีเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เป็นประเด็น เรื่องอะไร ?
จูเนียร์ : เรื่องปลานี่แหละค่ะ วันที่ 31 เขามาจับปลา แล้วเฮียชาติให้หนูลงไปคุยว่าคนอีสานด้วยกัน เราลงทุนเป็นล้านเพื่อเลี้ยงปลา เราต้องการให้เกิดรายได้ ปลาที่เขาไปจับมันไม่ใช่บ่อของเขา แต่เขาอ้างว่าเป็นของเขา
มันอยู่ที่ใคร ?
ทนาย : เขาอ้างเป็นที่เขา แต่ลักษณะปลา เฮียชาติเขาเลี้ยงปลาล้อมรอบ แล้วทีนี้ร้อยเอ็ดน้ำท่วม ปลามันก็เลยไหลไปอยู่ที่เขาหรือไม่ไม่ทราบ พอจะจับปลาปุ๊บ เฮียชาติก็เจรจาว่าปลาเลี้ยงไว้ ขอได้ไหม หรือแบ่งครึ่งได้ไหม แต่เขาไม่ยอม เขาบอกปลาอยู่ที่เขา ประมาณนั้น
จูเนียร์ : วันนั้นที่คุย เขาก็มีเสื้อเกราะ มีปืน ลูกสาวก็ถือปืนข่มขู่จะฆ่าเรา เขาบอกเคยเรียนกฎหมายมาไหม ปืนนี้ถูกต้องนะ ยิงใครก็ไม่ผิด พ่อเขาเป็นตำรวจ แล้วพ่อเขาตะโกนมาว่าถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็ยิงมันเลย
ทนาย : วันเกิดเหตุ ลูกสาวยังพูดเลยว่าพ่อให้เตรียมพร้อม ถ้าพ่อพลาดมาให้ลูกซ้ำ มีคลิป
ฝั่งทนายเรื่องนั้นเขาสู้มุมไหน ?
ทนาย : ตามที่เป็นข่าวเขาบอกป้องกันตัว แต่การป้องกันตัวต้องมีเหตุป้องกันโดยชอบโดยกฎหมาย แต่นี่เขาจัดฉากทั้งนั้น หลังเกิดเหตุก็จัดฉาก รถเขาก็เคลื่อนย้ายให้ดูเหมือนรถผู้ตายวิ่งไปด้วยความเร็ว ซึ่งถนนเส้นนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อวิ่งเร็วไม่ได้ ลักษณะการเกิดเหตุ เขาพยายามบอกว่ายิงนัดเดียวเป็นการป้องกันตัว แต่ที่เกิดเหตุพยานบุคคลแวดล้อม เป็นการยิงซ้ำ 2 นัด แล้วคนยิงเป็นถึงตำรวจ น่าจะใช้ความอดทนอดกลั้นมากกว่านั้น การที่เขาอ้างเป็นการป้องกันตัวเป็นข้ออ้าง ข้อต่อสู้ของเขา ซึ่งเขาเป็นตำรวจ เขาก็รู้ดีว่าควรต่อสู้แบบไหน การยิงใช้ปืนลูกปรายลูกซองยิง ในขณะที่มีหลายคนอยู่ในรถ มันก็ส่อเจตนาว่าต้องการป้องกันตัวหรือเปล่า
มุมคุณจูเนียร์ วันนี้หวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ?
จูเนียร์ : ใช่ค่ะ กลัวลูกสาวเขาและครอบครัวเขา เขาพูดตลอดว่าเขาเป็นตำรวจ ทำอะไรไม่ผิด เขาไม่ติดคุก
ทนาย : มีคลิปที่ลูกสาวพกปืนตลอดก็มี ทางผู้เสียหายติดใจว่าคุณพกพาอาวุธปืนมา ลูกสาวก็ต้องมีความผิดด้วย
พูดคุยกับทาง “พ.ต.อ. ชาตรี ปรีชากุล” รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ด ครอบครัวยืนยันว่าผู้ก่อเหตุบอกเขาไม่ติดคุกแน่เพราะเป็นตำรวจ มองยังไง ?
พ.ต.อ. ชาตรี : คงไม่ใช่อย่างนั้นครับ เรื่องนี้เป็นเหตุที่เกิดขึ้น ทางเราได้ดำเนินการไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมดำเนินการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายแล้วนะครับ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เราได้สอบปากคำไว้ในสำนวนแล้ว ส่วนผู้ต้องหาแม้จะเป็นตำรวจ จะให้การยังไง ไปประกาศที่ไหนยังไง ก็ไม่เป็นผล เพราะข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นที่รับรู้ในสังคม รวมทั้งมีคลิปต่าง ๆ เผยแพร่ในสื่อโซเชียลให้รับทราบแล้ว ซึ่่งทางท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรร้อยเอ็ด ท่านกำชับให้ผมดูแลเรื่องนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ไม่มีการช่วยเหลือกันโดยเด็ดขาด
ภรรยาเขาบอกว่าฝั่งโน้นพูดว่าถ้ามึงไม่ตายเรื่องก็ไม่จบ ?
พ.ต.อ. ชาตรี : ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ออกสื่อ หรือไปพูดที่ไหนก็ดี ถ้าเห็นผู้กระทำผิดได้ดำเนินการในข้อเท็จจริงโดยละเอียดอย่างไร ท่านจะให้การเพื่อเป็นประโยชน์แก่รูปคดีฝ่ายท่าน ท่านก็ให้การในสำนวนได้ เราจะได้นำเสนอไปสู่อัยการ และให้ศาลตัดสินต่อไป แต่เบื้องต้นขอยืนยันว่าตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ด เราให้ความเป็นธรรมกับเรื่องนี้ เพราะตำรวจทำผิดเสียเอง ส่วนมูลเหตุกระทำผิดจะเป็นยังไง ขอเก็บไว้ในสำนวนเพื่อเป็นข้อมูลของกระบวนการยุติธรรมที่จะได้ดำเนินการต่อไปครับ
ฟังคลิปอีกนิดหนึ่ง เขาพูดว่าไง ?
จูเนียร์ : ประมาณว่าถ้าพ่อพลาดเขาจะซ้ำ
ทนาย : พ่อให้ปืนกับลูกอีกกระบอกหนึ่ง
จูเนียร์ : อยากฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจ วันเกิดเหตุหนูโทร. แจ้งตำรวจ ไปเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ แต่ตำรวจไป 2 นาย เขายิงนัดแรก นัดที่ 2 ก็ปล่อยระยะเวลาพอสมควรทำไมไม่มีใครเข้ามาช่วย แม้แต่รถพยาบาลก็ต้องโทร. เรียกเอง
Cr. Kapook