วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 นางสาวถนอมเกตุพุทธรรมอายุ 59ปีชาวบ้านในต.กะบกเตี้ยอ.เนินขามจ.ชัยนาทเดินทางเข้าร้องทุกข์โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารการฟ้องร้องระหว่างบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์กับผู้เช่าซื้อซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ป้าถนอมไปเซ็นค้ำประกันให้เป็นจำเลยที่ 1 และมีป้าถนอมเป็นจำเลยที่ 2 หลังจากเพื่อนบ้านเบี้ยวจ่ายค่างวดโดยมีมูลหนี้จำนวนประมาณ 600,000บาทจนเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ของป้าถนอมเป็นที่ดินจำนวน 3แปลงรวม 27ไร่ไปขายทอดตลาดทำให้ได้รับความเดือดร้อนปัจจุบันไม่เหลือแม้ที่อยู่จะซุกหัวนอน
โดยป้าถนอมเล่าถึงความแสบสันของเพื่อนบ้านรายนี้ว่า เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนเพื่อนบ้านหญิงอายุ ประมาณ 40 ปี ที่รู้จักคุ้นเคยกัน ได้มาขอให้ช่วยเซ็นค้ำประกันสัญญาเช่าซื้อรถกระบะให้ ตนเห็นว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันจึงสงสารและยอมเซ็นให้ ต่อมาก็ได้รับหมายศาลว่าป้าถูกฟ้องเพราะผู้เช่าซื้อไม่จ่ายค่างวด เมื่อถามไปผู้เช่าซื้อก็หลอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เดี๋ยวจะเคลียร์ให้ ตนเองก็สบายใจไปช่วงหนึ่ง จนต่อมามีหมายศาลสั่งยึดทรัพย์ที่ดิน 3 แปลง ตนก็ถามไปที่ผู้เช่าซื้ออีก ก็ได้รับคำตอบหลอกให้ตายใจอีกว่าจะหาเงินไปซื้อที่คืนให้ จนแล้วจนรอดผ่านไปก็ทราบว่าที่ดินถูกขายทอดตลาดไปแล้ว ในราคารวมกว่า 600,000 บาท และเมื่อคุณป้า พยายามถามราคากับผู้ที่ประมูลได้ไปก็ต้องช็อกเพราะเจ้าของรายใหม่จะขายในราคาสูงถึง 3 ล้านบาท ทำให้ป้าถนอมต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม และอยากให้ผู้เช่าซื้อแสดงความรับผิดชอบมาซื้อที่ดินคืนให้ เพราะป้ากำลังหมดตัวเพราะความเชื่อใจผู้เช่าซื้อ ที่ไม่น่ามาทำกันได้ ป้าพูดด้วยน้ำตากับเราว่า “เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด” แท้ๆ