เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงนามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 357/2563 เรื่องเลื่อนกำหนดการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการกองประจำการ ปี 2563 โดยระบุว่า ตามที่กองทัพบก ได้กำหนดให้มีการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการกองประจำการ ระหว่างวันที่ 1-12 เมษายนนั้น เนื่องจากปัจจุบันเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน 2563

ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมป้องกันและลดความเสี่ยงของทหารกองเกินและประชาชน จึงให้เลื่อนกำหนดการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจำการประจำปี 2563 จากเดิมออกไป เป็นระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม 2563

สำหรับขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฏหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง และหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ทหารกองเกิน ที่ได้รับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (สด.35) เพื่อเข้ารับการตรวจเลือก ในปี 2563 ไม่สามารถอ้างเหตุในการเลื่อน ว่าจะไม่มาทำการตรวจเลือก ตามที่กระทรวงกลาโหม กำหนดการตรวจเลือกครั้งใหม่ได้

เมื่อกล่าวถึงเดือนเมษายน หลายคนคงจะนึกถึงวันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทย จริงๆ ยังมีอีกสิ่งสำคัญของชายไทยที่อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว นั่นก็คือ “การเกณฑ์ทหาร” หรือที่ภาษาราชการ เรียกว่า “การตรวจเลือกทหาร” ซึ่งตามกฎหมายแล้วชายที่มีสัญชาติไทยทุกคนมีหน้าที่รับราชการทหารด้วยตนเอง ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ต้องถูกลงโทษปรับหรือจำคุก หรือตามแก้ปัญหากันในภายหลัง จึงขอนำสาระเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร โดยเฉพาะการขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารของผู้ที่ศึกษาอยู่ในต่างประเทศมาแบ่งปันกัน

การลงบัญชีทหารกองเกิน (การขึ้นทะเบียนทหาร)

ชายที่มีสัญชาติไทยเมื่อมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ (อายุย่างเข้า 18 ปี) ต้องไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินตามภูมิลำเนาของบิดา หรือที่เรียกว่า ภูมิลำเนาทหาร โดยติดต่อหน่วยสัสดีเขตหรืออำเภอที่บิดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เช่น ในปี พ.ศ. 2561ผู้ที่มีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ (อายุย่างเข้า 18 ปี) คือ ผู้เกิด พ.ศ. 2544ต้องไปลงบัญชีทหารกองเกิน โดยลงบัญชีได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561และเมื่อดำเนินการแล้วจะได้รับใบสำคัญทหารกองเกิน หรือที่เรียกว่า สด. 9 หากไม่สามารถไปได้ด้วยตนเอง ต้องให้บุคคลที่บรรลุนิติภาวะและเชื่อถือได้ไปแจ้งแทน (ควรเป็นบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง) หากพ้นกำหนดถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืนมีความผิดตามกฎหมาย

การรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร

ชายไทยที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้ว เมื่อมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ (อายุย่างเข้า 21 ปี) ให้ไปรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหารที่หน่วยสัสดีเขตหรืออำเภอที่มีภูมิลำเนาทหารภายในปี พ.ศ. นั้น เพื่อเข้ารับการตรวจเลือกทหารในเดือนเมษายนของปี พ.ศ. ถัดไป เช่น ผู้เกิด พ.ศ. 2541จะมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ในปี พ.ศ. 2561ให้ไปรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร หรือที่เรียกว่า สด. 35 ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561เพื่อเข้ารับการตรวจเลือกทหารในเดือนเมษายน 2562หากไม่สามารถไปรับหมายเรียกได้ด้วยตนเอง ต้องให้บุคคลที่บรรลุนิติภาวะและเชื่อถือได้ไปแจ้งแทน (ควรเป็นบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง) หากพ้นกำหนดถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน มีความผิดตามกฎหมาย

การขอผ่อนผันการตรวจเลือกทหาร (ขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร)

ในเดือน เม.ย. ของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีการตรวจเลือกทหาร หรือ การเกณฑ์ทหารตามเขตและอำเภอต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งชายไทยที่ได้รับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร แต่ไม่สามารถไปตรวจเลือกทหารตามวันเวลาที่กำหนด เนื่องจากกำลังศึกษาในต่างประเทศ ให้ยื่นเรื่องขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารที่หน่วยสัสดีเขตหรืออำเภอที่มีภูมิลำเนาทหาร โดยให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองเป็นดำเนินการ ซึ่งโดยปกติแล้วจะได้รับการผ่อนผันตามจำนวนปีใช้ศึกษาตามหลักสูตรจนกว่าจะจบการศึกษา และยกเว้นให้ไม่ต้องมาแสดงตนในวันเกณฑ์ทหาร

สำหรับเอกสารที่จะต้องใช้ยื่นขอผ่อนผันเกณฑ์ทหารกับหน่วยสัสดีเขตหรืออำเภอที่มีภูมิลำเนาทหาร  นอกจาก สด.9 และ สด.35  ตลอดจนหลักฐานแสดงตนอื่นๆ จำพวกบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านแล้วนั้น ยังมีเอกสารสำคัญที่จะต้องยื่นประกอบด้วย คือ

1. หนังสือรับรองของสถาบันการศึกษา พร้อมคำแปลภาษาไทย และ

2. หนังสือรับรองของสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในประเทศที่กำลังศึกษาอยู่