เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก จากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า “Sgt-krerkrit Limsakul” ได้โพสต์ข้อความว่า Save จ่าทหาร
เป็นการโต้แย้งด้วยเอกสาร แต่ผู้ว่าไม่ดูเอกสารในทางจิตวิทยาถือว่าไม่ให้เกียรติองค์กร(ดูแล้วจะให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่านแล้วแต่ดุลยพินิจ) ถ้าผู้ว่าดูเอกสารสักนิดมันก็จะรู้ชื่อหน่วย/เบอร์โทรหน่วย/ชื่อผู้บังคับบัญชา/จะทำให้ไม่ต้องถามว่าหน่วยไหน(แต่ที่ถามเพราะอยากเบ่งว่ากูใหญ่) แล้วแม่พี่จ่าละครับใครจะดูแลท่าน นี่แหละน้าความเที่ยงธรรมไม่มีเลยหรอครับในสังคม #เหตุผลที่แกต้องเดินทางเพราะต้องไปดูแลแม่ที่ป่วยนอนติดเตียงอยู่ที่บ้าน แกผิดหรอครับถามใจตัวเองดูนะครับ และลงภาพประกอบดังนี้
แม่ที่นอนป่วย
รายงานชี้แจง
1.ลงทัณฑ์โดยสาร “จำขัง” จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา จำนวน 45 วัน ณ เรือนจำ มทบ.43 และส่งไปฝึกที่ศูนย์ฝึกธำรงวินัย กองทัพภาคที่ 4 (มทบ.41)
2.งดบำเหน็จประจำปี 2563 (ครึ่งปีหลัง) จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา
3.พ.ต.ลิขิต ชาฎา ตำแหน่ง ผบ.ร้อย ลว.ไกล 5 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา ให้มาปฏิบัติหน้าที่ ณ บก.พล.ร.5
4.ให้ ร.อ.สุนทร ทองมาก ตำแหน่ง รอง ผบ.ร้อย ลว.ไกล 5 ทำการแทน ผบ.ร้อย ลว.ไกล 5 ตั้งแต่ 16 เม.ย.2563 เป็นต้นไป
ด้าน นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผวจ.ตรัง เปิดเผยว่า ตนไม่อยากจะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าถ้าจะเข้าจ.ตรัง จะต้องไปเข้าทางด่านคัดกรอง คำสั่งจังหวัดบางเรื่องอาจจะมีข้อบังคับที่มากกว่า พ.ร.ก. และในฐานะที่ตนทำหน้าที่เป็นผู้กำกับในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัด สามารถกำหนดในบางเรื่องได้ เพื่อจะระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคและการควบคุมโรค โดยเฉพาะเรื่องสำคัญที่สุดคือ การคัดกรอง
สั่งขังทหารเถียงผู้ว่าตรัง
”เพราะเจตนาสำคัญที่สุดคือ การระงับยับยั้งการป้องกันโรค เพราะฉะนั้นต้องผ่านด่านหลักที่กำหนดเท่านั้น การที่จะเข้าทางด่านอื่นโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เพราะไม่ได้มีหลักฐานแสดงว่าให้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจังหวัดตรังยืนยันจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อปกป้องระงับยับยั้งและป้องกันการระบาดของเชื้อในพื้นที่”
Cr. ข่าวสด Sgt-krerkrit Limsakul