เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กลับมาสร้างกระแสอีกครั้งแล้วกับ #ผู้กองเบนซ์ กลับมาทวงบัลลังก์ ติดเทรนด์แฮชแท็กในทวิตเตอร์อีกหนึ่งครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวเผยแพร่คลิปที่เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ “เพศสภาพ” ของตนเองว่า “ผมเกือบเป็นตุ๊ด” 

โดยเนื้อหาในวีดีโอ ผู้กองเบนซ์กล่าวว่าตนเข้าศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีจำนวนเพื่อนผู้ชายน้อยอยู่แล้ว แต่ในจำนวนนักศึกษาชายทั้งหมดนั้น มีคนที่เป็นเพศที่สามอยู่เยอะกว่าคนที่เป็นชายแท้ ทำให้ตนเกือบแปลงเพศสภาพหากเรียนอยู่นานกว่านั้น

“ฉิบหาย กูเกือบเป็นอีเบนซ์เลยอะ…คุณอาจจะชอบเห็นผมชอบทำมือทำไม้ คือบอกได้เลยแม่งเป็นจิตใต้สำนึก ติดมาตั้งแต่กูเรียนอักษรฯ ศิลปากรจ้า เกือบเป็นอีเบนซ์แล้ว ณ เวลานั้น ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจลาออกมานะ จบ”

1. การไม่ให้เกียรติเพศที่สาม ด้วยใช้คำเรียกกลุ่มบุคคลเหล่านี้ว่า “ตุ๊ด” และ “กะเทย” ซึ่งในฐานะบุคคลสาธารณะควรระมัดระวังเรื่องการเลือกใช้คำให้มากกว่านี้

2. เพศที่สามไม่ใช่สิ่งที่เลือก ‘เป็น’ หรือ ‘ไม่เป็น’ ได้ บางความคิดเห็นบอกว่าการเป็นตุ๊ดหรือกะเทยไม่ใช่ไวรัสที่ติดต่อกันได้ มีปัจจัยสำคัญด้านพันธุกรรม เป็นเพศสภาพที่ติดตัวมาแต่กำเนิดเช่นเดียวกับ ชายและหญิง ไม่ใช่สิ่งที่เลือกจะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ และการออกมาพูดเช่นนี้ถือเป็นการเหมารวมแบบมักง่ายเกินไป

3. การเหมาว่าผู้ชายที่เข้าเรียนอักษรฯ ทุกคนต้องกลายเป็นเพศที่สาม สิ่งแวดล้อมหรือสถานที่ไม่ได้มีอิทธิพลกับการเปลี่ยนเพศสภาพ อาจทำให้กลุ่มคนในสังคมที่คนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องความหลากหลายของเพศสภาพมีความเข้าใจที่ผิดพลาดเกี่ยวกับสถาบัน

คงต้องรอฟังคำแถลงจากเจ้าตัวว่า ไลฟ์โค้ชชื่อดังคนนี้จะตอบกลับทุกคนเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร..