เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สำหรับหลายท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่า ช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยของเรา ถูกประกาศเข้าสู พรก.ฉุ กเฉิน เพื่อมาตรการการควบคุมสถานการณ์ c๐vid ซึ่งก็ได้มีการประกาศเคอร์ฟิวส์ห้ามออกนอกเคหะสถาน ภายในช่วงเวลา 22.00 น. – 04.00 น. ของทุกๆวันด้วย เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานให้เกิดการควบคุมที่เข้มงวดที่สุด และเราก็จะเห็นได้ว่า มาตรการดังกล่าว ส่งผลต่อสถิติการควบคุมโ ร คของบ้านเรา ที่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องแลกมาด้วย การหยุดชะงักของภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวต่างๆ ที่ต้องหยุดลงขาดรายได้ แต่หวังว่าอีกไม่นาน ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับมาเริ่มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ว่ากันถึงเรื่องของมาตรการเคอร์ฟิวส์แล้ว ก็ได้มีการประกาศคลายล็อคดาวน์เฟส 2 ออกมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้ผ่อนปรนเวลาการห้ามออกจากเคหะสถานจากเดิมที่เริ่มต้น 22.00 น. เป็น 23.00 น. แต่เวลาช่วงเช้านั้นยังคงเดิมที่ 04.00 น. ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.63 ซึ่งวันนี้เรามีเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่า เกี่ยวข้องกับเรื่อง พรก.ฉุกเฉินที่กล่าวมาข้างต้นโดยตรง และต้องถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสับสนต่อชาวบ้านพอสมควร

เมื่อมีเฟสบุคที่ชื่อว่า ต้าร์บางกะปิ สาขาเคหะร่มเกล้า ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดภายในร้านซ่อมรถของตัวเอง ที่ตนและเพื่อนกำลังนั่งกิน-ดื่มกับเพื่อนภายในร้าน 2 คน ขณะที่กำลังคุยกัน จู่ๆก็มีจนท.สายตรวจเปิดประตูร้านเข้ามา พร้อมแสดงตัวเข้าจับโดยให้เหตุผลว่าทั้งคู่กำลัง มั่วสุมกันอยู่ซึ่งอาจขัดต่อมาตรการหรือตามพรก.ฉุกเฉิน จึงขอเชิญตัวไปที่โรงพัก แต่ทั้งคู่ก็ไม่ไม่ยอม ซึ่งร้อยเวรที่มาด้วยกัน ก็ได้เข้ามาพยายาม เข้ามาพูดแล้วว่าการกระทำนี้อาจจะไม่เข้าข่ายเลย ก็มีได้การว่ากล่าวตักเตือนอธิบายกันเล็กน้อย และจนท.ก็กลับไป ซึ่งหลังจากคลิปวิดีโอและเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีการถูกพูดถึงอย่างมาก ในโลกโซเชียล ว่าการกระทำของจนท.นั้น ถูกต้องแล้วหรือไม่