ปัญหาการขัดแย้ง ชาวประมงบุกรุกที่นักธุรกิจ สุดท้ายเจ้าของที่ทนไม่ไหวขี่เจ็ตสกีควักปืนยิงขู่กลางทะเล

จากกรณีปัญหาการขัดแย้งแย่งชิงผลประโยชน์ลูกหอยแครงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นพื้นสาธารณะประโยชน์ประชาชนใช้ร่วมกันและไม่อนุญาตให้มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลอ่าวบ้านดอนในพื้นที่ ต.ลีเล็ด อ.พุนพินและ ต.คลองฉนาก ต.บางชนะ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จนเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มประมงพื้นบ้านผู้นำชุมชนและผู้ประกอบการ

เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นขณะกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านกำลังลงงมหอยในทะเลบริเวณปากอ่าวคลองราง ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ได้มีชายฉกรรจ์ขับเจ็ตสกีพร้อมชักปืนมายิงขู่ชาวบ้านให้ขึ้นจากทะเล กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านตกใจต่างรีบขึ้นจากทะเล และรีบติดเครื่องยนต์ขับหนีตายกันอย่างอลหม่าน.

ล่าสุด นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอพุนพิน นำ อส.เข้าควบคุมสถานการณ์พร้อมนำตัว นายสันติ นวลเสน อายุ 29 ปี ขับเจ็ตสกียิงปืนขู่ชาวประมงพื้นบ้าน ไปดำเนินการสอบสวนที่ที่ว่าอำเภอพุนพิน มี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีสอบปากคำด้วยตนเอง ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน ดำเนินคดีใน 3 ข้อหา
1. มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรใน

ขณะเดียวกัน นายสันติ ได้ขอแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ไปจับหอยในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ในระหว่างเตรียมหลักฐานขอยื่นประกันตัว ทั้งนี้ นายสันติ ให้การว่าที่บ้านได้ทำธุรกิจเลี้ยงหอยใน อ.ท่าฉาง เป็นเวลา 18 ปีและ 2-3 ปี ที่ผ่านมาได้ซื้อคอกหอยจากชาวบ้านที่บ้านคลองราง หมู่ 2 ต.ลีเล็ด เนื้อที่ 30 ไร่ในราคา 150,000 บาท เพาะเลี้ยงหอย และเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งซื้อลูกหอยจากชาวบ้านไปตักเก็บใน 1,000 เมตร จำนวนเงิน 2,200,000 บาท มาปล่อยไว้ในคอกที่เกิดเหตุ