จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) บนถนนวิภาวดี บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 72 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ และพบว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสุ่มตรวจพบ นายกรกฎ สิงหะพันธ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/32 หมู่ 3 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ขับรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ สีเทา ทะเบียน 1 กฆ 5471 กรุงเทพมหานคร มีลักษณะคล้ายคนเมาสุราจึงขอให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่นายกรกฎกลับใช้ปากอมเครื่องวัดไว้ไม่ยอมเป่า เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่ประมาณ 30 นาทีแต่ไม่เป็นผล นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบในรถพบสุรา 1 ขวด โดยดื่มไปแล้วครึ่งขวด จึงแจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ข้อหาเมาแล้วขับ และข้อหาไม่พกพาสำเนาทะเบียนรถ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วิภาวดี เพื่อดำเนินคดี และส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมืองวันที่ (30 ธ.ค.)
ช่วงสายวันที่ (30 ธ.ค.) ศาลแขวงดอนเมืองได้มีคำพิพากษาในคดีดำที่ 2199/2560 คดีแดงที่ 2276/2560 กรณีนายกรกฎ สิงหะพันธ์ เป็นจำเลย โดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ
1. ไม่ยอมเป่า ถือเป็นความผิดฐานเมาแล้วขับ ศาลลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 20,000 บาท
2. ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานปรับ 1,000 บาท
แต่จำเลยรับสารภาพคงเหลือโทษจำคุก 2 เดือนปรับ 10,500 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติจำเลย 1 ปี โดยต้องรายงานตัว 4 ครั้ง บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.เป็นเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2560 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะใช้กำไลข้อเท้า หรืออุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมติดตามตัว พร้อมทั้งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน และเข้ารับการอบรมวินัยจราจร 1 ครั้ง
ที่มา – ผู้จัดการออนไลน์