เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เกิดเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาในสังคมออนไลน์กัมพูชา เกี่ยวกับโรงแรมไทย ที่ทำให้ชาวเน็ตกัมพูชารับไม่ได้ โดยจากรายงานของเว็บไซต์ขแมร์ไทม์ส ระบุว่า ต้นเรื่องคือ โรงแรมและรีสอร์ตแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน ซึ่งบนเว็บไซต์ได้อธิบายว่าสร้างโดยได้รับแรงบันดาลมาจาก นครวัด (Angor Wat) ที่เป็นหมู่ปราสาทในประเทศกัมพูชา และเป็นหนึ่งในแหล่งแหล่งมรดกโลก บนเว็บไซต์ของโรงแรม บรรยายว่า ตัวอาคารและงานแกะสลักทุกชิ้นสร้างสรรค์ด้วยมืออย่างปราณีต เสมือนราวกับของจริงที่กัมพูชา และชื่อห้องพักหลักมีอยู่ 3 ชื่อ คือ ห้องนครวัด ห้องบันทายศรี และ ห้องบายน
จากภาพจะเห็นได้ว่าตัวอาคารที่นำความเป็นขอมโบราณและดูสวยงาม ผู้ที่ไม่ทราบอาจจะคิดว่ามันเหมือนกันไปหมดและลงตัว แต่แท้จริงแล้วเป็นการนำจุดเด่นของปราสาทหินแต่ละที่มาผสมผสานเข้าด้วยกัน ซึ่งแต่ละที่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะสร้างตามความเชื่อแบบแบบฮินดู นิกายวิษณะบ้าง นิกายไศวะบ้าง รวมทั้งพุทธศาสนา สิ่งที่เด่นชัดมากที่สุดคือ ใบหน้ารูปสลักขนาดยักษ์ ของปราสาทบายนซึ่งตั้งอยู่ใน นครธม (Angor Thom) ที่ จ.เสียมราฐ คนละที่กับนครวัด ใน จ.พระนคร ที่สร้างขึ้นต่างยุคและมีรูปแบบแตกต่างกัน
ด้วยเหตุนี้ ชาวกัมพูชาจึงกล่าวหาว่าโรงแรมดังกล่าวจงใจฉกฉวยทางวัฒนธรรม (cultural appropriation) หรือการนำวัฒนธรรมอื่นมาใช้อย่างไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง นอกจากนี้แล้ว ปราสาทหินเหล่านี้ โดยเฉพาะ นครวัด ขึ้นชื่อว่าเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชาวโซเชียลกัมพูชาจึงไม่พอใจที่มีการลอกเลียนโบราณสถานทางศาสนามาใช้ในเชิงพาณิชย์
บนเฟซบุ๊กของโรงแรมก็มีชาวเน็ตกัมพูชาจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ ระบุว่า นครวัด เป็นสมบัติของกัมพูชา มันไม่ถูกต้องที่ชาวต่างชาติจะมาขโมยไป บ้างก็ว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของกัมพูชา หากจะนำมาใช้ ควรต้องขออนุญาตจากกัมพูชาก่อน รวมทั้งกล่าวว่า มันน่าเศร้าอย่างมากที่ ที่เห็นมรดกทางวัฒนธรรมกัมพูชาถูกขโมยมาเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีคอมเมนต์ในเชิงขบขันเช่นกัน กล่าวว่า เกาะพะงันอยู่ห่างจาก นครวัด มากกว่า 1,000 กิโลเมตร ไม่เข้าใจว่าปราสาทหินเหล่านี้มาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร
ทั้งนี้ ไม่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าของโรงแรมดังกล่าวเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ทางทีมงาน ได้พยายามติดต่อไปยังโรงแรมแห่งนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
************************************************************************************************************************************************************************