เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 23 ต.ค.2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนที่ผ่านการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง สามารถใช้จ่ายได้แล้ว โดยเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ไม่รวมสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบและบริการต่าง ๆ ในลักษณะการร่วมจ่าย

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีประชาชนลงทะเบียน จำนวน 6,733,557 คน ในจำนวนนี้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบซึ่งได้รับสิทธิใช้จ่ายตามโครงการ จำนวน 6,402,927 คน จึงยังคงเหลือสิทธิให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อีกกว่า 3 ล้านคน

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ประชาชนที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้ติดตั้งแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเติมเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ตามต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องเติมครั้งเดียว 3,000 บาท จากนั้น จึงเข้าไปในแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก็จะสามารถใช้สิทธิจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าทั่วไป กับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2563 ในช่วงเวลา 06.00-23.00 น.

“สำหรับการใช้จ่ายแต่ละครั้งรัฐจะร่วมจ่ายครึ่งหนึ่ง แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน และไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ เช่น การใช้จ่ายในครั้งแรกหากต้องการจ่ายค่าอาหาร 200 บาท ก็ต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 100 บาท เพื่อสแกนจ่ายเงินกับร้านค้า “ถุงเงิน” และรัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้าอีก 100 บาท หรือหากจะใช้จ่าย ค่าสินค้า จำนวน 400 บาท ก็ต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 250 บาท รัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้า 150 บาท”