วันที่ 4 พ.ย.63 รายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ได้พูดคุยกับ อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี นักร้องชื่อดัง กับ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน เพื่อมาร่วมแสดงทัศนะของ 2 ฝ่ายการเมือง
ไผ่ ดาวดิน กล่าวถึงการไม่เข้าร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ว่า ขอยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้องเดิม หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ลาออก สามารถมองได้ว่า ฝ่ายรัฐบาลไม่ยินยอมอะไรเลย ซึ่งส่วนตัวมองว่า 3 ข้อเรียกร้องนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ
อุ๊ หฤทัย กล่าวว่า คาดว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ปรองดอง อาจจะดำเนินการได้ประมาณหนึ่ง การรับฟังความคิดเห็นของผู้ชุมนุมก็เป็นสิ่งจำเป็น หากมีเวทีมารับฟังก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
ส่วนเรื่องที่บอกว่า ความขัดแย้งมาจากปี 57 ที่มีการปฏิวัติ ต้องถามกลับว่า ทำไมขณะนั้นต้องมีการปฏิวัติ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่แล้วมีความรู้เรื่องการเมืองเป็นอย่างดี ไม่เพิกเฉยกับอำนาจที่มาจากการผูกขาด คนไทยต่อสู้กับเผด็จการมาโดยตลอด ยกตัวอย่าง พฤษภาทมิฬ และการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาปฏิวัติแล้วคนยอมรับได้เพราะก่อนหน้านี้เพราะบ้านเมืองไม่สงบ วุ่นวาย จุดเร่ิมต้นของปัญหาจริงๆ มาจากการทุจริตคอร์รัปชันแบบบูรณาการ มีการนำภาษีของคนไทยทั้งชาติมาสูดกินเลือดกินเนื้อ จึงทำให้เกิดรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อปราบโกง
ไผ่ ดาวดิน : ก่อนหน้านี้ตนได้ต่อสู้ในสิ่งที่ไม่เป็นธรรมร่วมกับชาวบ้านมาโดยตลอด แต่หลังจากมีการทำรัฐประหารบรรยากาศในการต่อสู้เปลี่ยนไป ยกตัวอย่างห้ามชุมนุมเกิน 5 คน มีตำรวจทหารถือปืนเข้ามาตรวจค้น หรือแม้กระทั่งการคัดค้านโครงการของรัฐ ถ้าเป็นรัฐบาลปกติจะสามารถคัดค้านได้ แต่ในปี 58 ของรัฐบาลประยุทธ์ ไม่สามารถคัดค้านได้ นี่คือสิ่งที่ตนเห็นมา
อุ๊ หฤทัย : ประเด็นที่อยากให้การเมืองนำการทหาร ตนมองว่าการเมืองที่นำพาประเทศไทยทุกวันนี้มันติดหล่มเนื่องจากคำว่า ประชาธิปไตยต้องมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจริงๆ แล้ว ระบอบประชาธิปไตย หมายถึง การให้คนไทยทุกคนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยมีสิทธิเสรีภาพ เพื่อการพัฒนาประเทศ แต่เรามักจะเห็นว่าการพัฒนาประเทศมักติดหล่มเพราะกลไกทางการเมือง ซึ่งกลไกทางการเมืองต้องมองย้อนไปว่า ตั้งแต่รัฐบาลของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาเรามีการเลือกตั้ง แล้วเรามีการพัฒนาประเทศ 30 ปีที่ผ่านมา ช้ามาก ตนคิดว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งมีปัญหา
ส่วนตัวคิดว่าประเทศชาติเราต้องเน้นถึงเรื่องพัฒนาก่อน เศรษฐกิจทางภาคเอกชนจะต้องได้รับการสนับสนุน เช่น ทุนเพราะ ทุน คือตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ ซึ่งรัฐนั้นเป็นผู้ส่งเสริมเอื้อให้ทุนขับเคลื่อนประเทศ แต่เมื่อใดก็ตามหากรัฐในการทำโครงการต่างๆ ที่จะมารอบรับโครงสร้างพื้นฐาน มีการทุจริตเมื่อใด จะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านแซงไทย รัฐบาลต้องเสียเงินไปกับนโยบายที่มาจาประชานิยม แทนที่จะเอาเงินส่วนนี้ไปพัฒนาประเทศ ดังนั้นมีอะไรจะต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่จะมาไล่นายกรัฐมนตรีที่ทำผลงานพัฒนาประเทศ ในสิ่งที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถทำได้ตลอดระยะเวลา 30 ปี
ไผ่ ดาวดิน : เรามีความคิดคล้ายกันในเรื่องที่ไม่ต้องการรัฐบาลที่มาคอร์รัปชัน แต่สิ่งที่มองคือ ตนตรวจสอบทุกรัฐบาลแต่เมื่อถึงรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ การตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก เรากำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การเลือกตั้งก็เป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีประชาชนโดนจับเพราะไปไล่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรความแตกต่างคือ รัฐควรส่งเสริมสิทธิประชน แต่สิ่งที่อีกฝ่ายมองคือรัฐต้องส่งเสริมทุนต่างๆ ดังนั้นต้องยอมรับความจริงว่า พล.อ.ประยุทธ์ มาจากรัฐประหาร
ในส่วนของการเลือกตั้ง 30 ปี กับการพัฒนาประเทศ เพราะเมื่อมีการเลือกตั้งก็จะเกิดรัฐประหาร ทหารพยายามแทรกแซงทางการเมือง ที่ผ่านมาเราอดทนและรอคอย เหตุใดจึงไม่ให้ประชาชนเรียนรู้ด้วยตนเอง ออกไปใช้สิทธิใช้เสียง ต้องมีการกระจายอำนาจ
อุ๊ หฤทัย : ฟังแล้วเหมือนเห็นตัวเอง เมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันต้องดูว่าที่ผ่านมาไม่ใช่แค่เกิดการปฏิวัติเพียงอย่างเดียว แต่ประชาชนออกมาใช้ความรุนแรง ถ้าจะต้านทุจริตจริงๆ ต้องสนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 60
ไผ่ ดาวดิน : ที่ผ่านมาเป็นการผลักไสไล่ส่งประชาชนมาโดยตลอด ไม่เอาปัญหาของประชาชนมาพิจารณา อำนาจทหารทางการเมือง จะมีวิธีคิดแบบทหาร คือการใช้อำนาจ หากรัฐประหารดี เหตุใดจึงมีรัฐประหารหลายครั้ง
อุ๊ หฤทัย : สิทธิ เสรีภาพ ทุกคนมีได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และที่มาของ พ.ร.บ.ชุมนุม เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการชุมนุมแล้วเกิดความรุนแรง ซึ่งปัจจุบันผู้ชุมนุมจะต้องไม่ไปละเมิดผู้อื่น โดยเฉพาะความศรัทธาของผู้คนอย่างการโจมตีสถาบัน อาจจะเกิดความเกลียดชังเกิดขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจุดแข็งของประเทศ เป็นศูนย์รวมจิตใจ ดังนั้นหากมีผู้ไม่หวังดีจะโจมตีจุดอ่อน เราจึงต้องรู้เท่าทัน
ไผ่ ดาวดิน : ต้องเข้าใจก่อนว่าเราโตในสังคม ช่วงวัยที่แตกต่างกัน เราอาจจะมีสิ่งที่ศรัทธาต่างกัน โลกเปลี่ยนไปแล้วคนรุ่นใหม่ที่ออกมา เขาไม่ได้มองแค่เรื่องของตัวเอง แต่เขามองไปถึงอนาคต เราไม่ได้ศรัทธาอย่างเดียวแต่มีการตั้งคำถามด้วย จึงต้องมีการปฏิรูปเพื่อพูดคุยปัญหากันได้อย่างตรงไปตรงมา กฎหมายต้องเป็นของทุกคน ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแก้กฎหมาย
อุ๊ หฤทัย : ปัจจุบันความเชื่อในสถาบันลดน้อยลงเพราะโลกเปลี่ยน จึงขอให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจในการตกเป็นทาสในมหาอำนาจของโลก
ภาพและข้อมูลจาก รายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ