เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่บช.ปส. ตำรวจแถลงข่าวยาเสพติดรวมทั้งสิ้น 14 คดี รวมผู้ต้องหา 28 คน พร้อมของกลางรวม ยาบ้า 7,990,000 เม็ด ไอซ์ 840 กิโลกรัม เคตามีน 250 กิโลกรัม กัญชา 700 กิโลกรัม ยาอี 50 เม็ดโดยมีคดีที่น่าสนใจทั้งสิ้น 4 คดีดังนี้

คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน จับกุม นายอนุพันธ์ เปี่ยมฟ้า อายุ 19 ปี ชาวจ.ชลบุรี นายมนต์ชัย เปลี่ยนน้อย อายุ 44 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางกัญชา 704 กิโลกรัม จับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ กม.2 ถนนเจริญเมือง ต.ดงมะไฟ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร

สืบเนื่องสายลับแจ้งตำรวจว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด เป็นกลุ่มผู้ค้าที่มีภูมิลำเนาในจ.ราชบุรี มีพฤติการณ์ร่วมกันรับจ้าง ขนส่งลำเลียงยาเสพติดจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านติดชายแดนไทย-สปป.ลาว ไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ ภาคกลาง ภาคใต้ โดยใช้เส้นทางการลำเลียงจาก จ.นครพนม – จ.สกลนคร – จ.กาฬสินธุ์ – จ.ขอนแก่น – จ.นครราชสีมา

เข้าสู่พื้นที่ชั้นในส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง กระทั่งพบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์ผ่านเส้นทางอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่แนวชายแดนไทย – สปป.ลาว จึงได้ดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติการณ์จนกระทั่ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง กัญชาน้ำหนัก 704 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระสอบปุ๋ย แล้วห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ พันทับด้วยเทปใส บรรจุใส่กระสอบปุ๋ย สีขาว จำนวน 16 กระสอบ จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งดำเนินคดี

คดีที่ 2. จับกุม นายธนัทภัทร หรือเอ็ม ตาลเจริญ อายุ 27 ปี ราวจ.ราชบุรี นายคมสรรค์ โพธิโสโนทัย อายุ 28 ปี ชาวจ.ราชบุรี นายวุฒิพงศ์ สุราฤทธิ์ อายุ 41 ปี ชาวจ.ราชบุรี และนายนิรันดร์ ทองกัลยา อายุ 33 ปี ชาวจ.นครปฐม พร้อมของกลางไอซ์ 14 กระสอบ น้ำหนัก 455 กิโลกรัม ไอซ์ 15 กรัม และยาอี 50 เม็ด ตรวจยึดเพิ่มเติมในห้องพักแห่งหนึ่งในซ.ประชาสงเคราะห์ 27

เริ่มแรกตำรวจได้จับกุมนายคมสรรค์ และนายวุฒิพงษ์ ได้ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพ หลัก กม.ที่ 267+300 ต.หนองแวงนางเบ้า อ.พล จ.ขอนแก่น ก่อนตรวจยึดรถยนต์ของผู้ต้องหาได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น และขยายผลจับกุมนายนิรันดร์ พร้อมรถยนต์ได้ที่บริเวณลานจอดรถปั๊มน้ำมัน ปตท. หลัก กม. 100 ถนนพหลโยธิน ขาเข้า ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี และจับกุมนายธนัทภัทร ได้ที่บริเวณล็อปบี้ โรงแรมเแห่งหนึ่งในอ.เมือง จ.นครพนม

โดยกลุ่มของนายคมสรรค์ พร้อมกับพวกเป็นกลุ่มที่มีภูมิลำเนาในจ.ราชบุรี มีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบ ขนส่งลำเลียงยาเสพติด โดยใช้เส้นทางการลำเลียงจาก ชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ ฝ อ.ท่าอุเทน – อ.ศรีสงคราม – จ.นครพนม เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า ในพื้นที่ จ.ปัตตานี

กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ไอซ์ 455 กิโลกรัม ทั้งนี้ขณะตรวจค้น นายวุฒิพงษ์ ได้พยายามจะขับรถหลบหนีโดยใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ และขับรถพุ่งชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่พังเสียหาย 3 คัน และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และในการจับกุมครั้งนี้ ได้มีผู้ต้องหา 2 ราย หลบหนีการจับกุมไปได้ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

คดีที่ 3 จับกุมนายนู่ฮั้ว ฟรือหนู แซ่ม้า อายุ 33 ปี นายวทัญญู หรือจ้ง แซ่ซ้ง อายุ 28 ปี นายนิบุณ หรือไอซ์ ทรงสวัสดิ์วงศ์ อายุ 22 ปี ทั้งหมดเป็น ชาวจ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้า 19 กระสอบ รวม 2,100 มัด 4,200,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง จับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมันพีที สาขานครสวรรค์และบริเวณริมถนนด้านหน้าหน่วยบริการประชาชนหนองแดง ม.2 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร

สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชนชาวเขาเผ่าม้ง มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ตาก ทราบชื่อ คือนายนู่ฮั้ว นายวทัญญู และนายนิบุณ ซึ่งทั้งหมดมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเป็นญาติกัน โดยร่วมกันรับจ้างขนส่งลำเลียงยาเสพติดจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างอยู่เป็นประจำ

โดยจะใช้เส้นทางการลำเลียงจาก จ.เชียงราย – จ.พะเยา – จ.ลำปาง – จ.สุโขทัย – จ.กำแพงเพชร – จ.นครสวรรค์ – จ.ชัยนาท เข้าสู่พื้นที่ชั้นใน เมื่อเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวกลุ่มดังกล่าวจึงสามารถจับกุม นายนู่ฮั้ว ได้ที่ริมถนนด้านหน้าหน่วยบริการประชาชนหนองแดน จ.กำแพงเพชร ก่อนจะจับนายวทัญญู และนายนิบุณ ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันพีที จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนดังกล่าว

คดีสุดท้าย ตรวจยึดไอซ์ น้ำหนัก 370 กิโลกรัม ยาบ้า 400,000 เม็ด เคตามีน 250 กิโลกรัม รถยนต์ 1 คัน ตรวจยึดได้ภายในไร่อ้อยติดถนนท้ายหมู่บ้านหนองบัว ม.1 ต.บึงสำโรง อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่าเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดจะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเขต จ.หนองคาย เข้าไปส่งให้กับกลุ่มผู้ค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้รถยนต์ ในการลำเลียง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาและร่วมกันเฝ้าตามเส้นทางเพื่อสกัดจับ

กระทั่งในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพบรถยนต์เป้าหมายขับผ่านเข้ามาพื้นที่ จ.นครราชสีมา จึงเข้าสกัดกั้นเพื่อทำการตรวจค้นจับกุม เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนขับได้จอดรถแล้ววิ่งหลบหนีไป เมื่อตรวจค้นภายในรถยนต์พบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสอบ บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินการต่อไป