เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จม.3 เกาะกระดาน ว่าพบพะยูนตาย 1 ตัว ลอยอยู่ในทะเลระหว่างเกาะแหวนกับเกาะกระดาน หมู่ 2 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
จากการตรวจสอบพบเป็นพะยูนเพศเมีย ความยาว 2.56 เมตร น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม สภาพท้องป่อง ลักษณะภายนอกมีบาดแผลประมาณ 3-4 นิ้ว โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ประสานสัตว์แพทย์ประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง มาทำการผ่าพิสูจน์ พบว่าสภาพลำตัวมีแผลถูกแทงตามลำตัวจนทะลุม้าม ส่วนที่มุมปากพบว่าเขี้ยวทั้ง 2 ข้างถูกตัดหายไป ส่วนอวัยวะอื่นๆ ยังอยู่ครบ และจากการผ่าพิสูจน์พบภาพสุดสลดยิ่งขึ้น เมื่อพบว่ามีลูกพะยูนน้อยอยู่ในท้องของแม่พยูนตัวนี้ด้วย สร้างความสะเทือนใจให้แก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับแม่พะยูนตัวนี้ ระบุข้อความว่า “ข่าวเศร้าก่อนสิ้นปี วันนี้มีพะยูนตายที่ตรัง เป็นเพศเมีย เธอกำลังจะเป็นคุณแม่ และ “อาจ” มีร่องรอยว่าถูกฆ่าและโดนตัดเขี้ยว ! เจ้าหน้าอุทยานหาดเจ้าไหมเป็นผู้พบ ดูจากภาพเพิ่งตาย ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างชันสูตรโดยสัตวแพทย์ของกรมทะเล ส่วนการที่พยูนถูกตัดเขี้ยว คงนำไปขายเป็นเครื่องรางถือเป็นกรณีที่ตั้งใจฆ่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ถือเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน ตนเองยังไม่ด่วนสรุป ขอให้มีการแถลงข่าวจากผู้เกี่ยวข้องโดยตรงก่อน แต่ในฐานะประธานคณะสัตว์หายาก หากเป็นเช่นนั้น เราต้องทำงานหนัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลพะยูน”
ดร.ธรณ์ ยังโพสต์อีกว่า “อันที่จริง มาเรียมเป็นโปรเจ็คที่ผ่านทุกขั้นตอนแล้ว เหลือเพียงแค่เข้า ครม. ตามเรื่องทุกครั้งที่เจอผู้เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็ยังไม่ได้เข้าสักที อาจเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยเจอปัญหาเร่งด่วนหลายอย่าง แต่ตอนนี้ อยากบอกว่า การดูแลสัตว์หายากให้อยู่รอดต่อไปในทะเลไทย ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในความคิดของคนรักทะเลเช่นกัน ยิ่งดูภาพเจ้าตัวน้อย ยิ่งรู้สึกเศร้า รู้สึกโกรธ ทำไมยังมีคนคิดว่าเขี้ยวพะยูนเป็นของขลัง มีพลังโน่นนี่ มีครับ ไม่ใช่มีคุณ แต่มีโทษ ทำร้าย/ฆ่า/ขาย/ครอบครอง สัตว์สงวน จำคุก 3-15 ปี ปรับ 3 แสน ถึง 1.5 ล้านบาท ทั้งจำทั้งปรับ สุดท้ายคือกรรม ฆ่าแม่ฆ่าลูกกฎแห่งกรรม ไปถึงแน่นอน ฆ่าน้องเค้าทำไม !!!”
