ร.ต.อ.สันติ ศรีสงคราม รอง.สวป.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านโจ๊ก นายสุภชัย ปราโมทย์เกษมสุข อายุ 39 ปี ว่ามีลูกจ้างในร้านแอบหยิบเงินที่ขายของได้ในลิ้นชักภายในร้านหายไป และสามารถตามจับตัวลูกจ้างรายนี้ได้ขอให้มาตรวจสอบและดำเนินการ
นายสุภชัย กล่าวว่า ตนเปิดร้านขายโจ๊กรอบดึกมานานกว่า 10 ปี โดยขายเวลา 18.00-04.00 น. ทุกวัน เมื่อช่วงกลางปี 56 ได้รับนายเปี๊ยก เข้ามาทำงาน เพราะสงสารเห็นไม่มีงานทำชอบเดินเตร่ขอข้าวตนกิน โดยให้เงินเดือน ๆ ละ 1,500 บาท ให้คอยทำความสะอาดร้านเล็ก ๆ น้อย ๆ หั่นหมู หั่นผัก ปั่นจักรยานไปซื้อผักที่ตลาดใกล้ร้าน
ต่อมาตนเห็นว่า นายเปี๊ยก ขยันขันแข็งจึงเพิ่มเงินส่วนต่างจากเงินเดือนให้อีกวันละ 200 บาท พร้อมดูแลสารทุกข์สุขดิบมาโดยตลอดอย่างไม่ขาดสาย
กระทั่งช่วง 3 ปีหลังพบว่าที่ร้านขายของขาดทุนมาโดยตลอด ทั้งที่ซื้อสินค้ามาจำหน่ายเท่าเดิมและบางวันซื้อเพิ่มมากขึ้นจากเดิมจนเป็นเหตุให้มีปากเสียงกับภรรยาจนเกือบจะเลิกรากันไป แต่ด้วยความอดทนจึงตั้งหน้าขายของต่อไป
กระทั่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดดูพบว่า นายเปี๊ยกเป็นคนลงมือเปิดลิ้นชักหยิบเงินไปจำนวนหนึ่ง และเมื่อย้อนหลังไปอีก 1 เดือนพบว่า นายเปี๊ยก ได้ลงมือหยิบเงินในลิ้นชักไปทุกวัน โดยจะเลือกช่วงเวลาที่ลูกค้าไม่มีในร้านและคนงานในร้านไปช่วยกันทำความสะอาดอยู่หลังร้านทั้งหมด ซึ่งประเมินมูลค่าน่าจะกว่า 400,000 บาท
นายเปี๊ยก รับสารภาพว่า ได้หยิบเงินในลิ้นชักไปตลอดทุกวันตลอด 3 ปี ด้านนายสุภชัย กลับใจดีไม่เอาความดำเนินคดี แถมให้เงินนายเปี๊ยกอีก 200 เป็นค่าเดินทาง พร้อมให้หยุดทำงานและไม่ต้องมาที่ร้านนี้อีกตลอดชีวิต