นางสาวกนกกาญจน์ อายุ 33 ปี โชว์หลักฐานใบแจ้งความ พร้อมเปิดใจกับทีมข่าว หลังลูกชาย วัย 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสมุทรปราการ ถูกครูประจำชั้นลงโทษ ด้วยการนำเทปกาวมาปิดปาก ทำให้ผิวหนังบริเวณริมฝีปากอักเสบ และใช้มือทุบหลัง
นอกจากนี้ ยังลงโทษ ด้วยการให้ลูกอั้นปัสสาวะจนหมดชั่วโมงเรียน ทำให้เด็กเกิดอาการกลัว กลับบ้านไปนอนละเมอเรียกหาแม่ตลอดทั้งคืน ซึ่งตอนนั้นตนเองรู้สึกตกใจมากว่า เอ๊ะ ลูกเราเป็นอะไร จึงได้พาไปพบแพทย์ให้ตรวจอาการ โดยแพทย์วินิจฉัยว่า ผิวหนังที่ริมฝีปากอักเสบระคายเคืองจากสิ่งสัมผัส
ด้วยความสงสัย จึงสอบถามลูกว่าไปโดนอะไรมา กระทั่งรู้ความจริงว่า ถูกครูทำโทษ ใช้เทปกาวมาปิดปาก และใช้มือทุบหลัง สาเหตุมาจากเรื่องที่ลูกคุยกับเพื่อนในห้องเรียน ระหว่างที่เขากำลังซ้อมเต้น เพื่อเตรียมการแสดง ในช่วงกิจกรรมวันคริสต์มาสของทางโรงเรียน
แม่ของเด็ก บอกว่า หลังทราบเรื่อง จึงรีบบอกสามีและเข้าไปสอบถามทางโรงเรียน ซึ่งได้พูดคุยกับทาง ผอ.โรงเรียน และฝ่ายธุรการ โดยภายหลังครูคนดังกล่าวก็ยอมรับ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ และทางโรงเรียนก็ได้พาครูผู้ก่อเหตุมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และเสนอค่าเยียวยา เป็นเงิน 1 หมื่นบาท
แต่ตนกับสามีคิดว่า เงินจำนวนนี้ ไม่สามารถชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ จึงไม่รับ และล่าสุด ทราบว่าทางโรงเรียนได้สั่งพักงานครูที่ก่อเหตุแล้ว โดยทราบว่า ครูคนนี้เพิ่งเข้ามาทำงานที่โรงเรียนได้ 2 เดือนเท่านั้น
นางสาวกนกกาญจน์ บอกอีกว่า หลังจากนี้จะให้ลูกย้ายไปเรียนที่อื่นแต่คงต้องรอให้จบเทอมก่อน เพราะจ่ายค่าเรียนไปหมดแล้ว แม้ว่า ก่อนหน้านี้จะมีข่าวครูจุ๋ม ทำร้ายเด็กนักเรียน แต่ที่ผ่านมา ครอบครัวก็ยังคงเชื่อมั่นในบุคลากรของโรงเรียนมาตลอด กระทั่งมาเกิดกับลูกตัวเองแบบนี้ จึงรับไม่ได้ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ขณะที่แม่เด็กอีกคน คือ นางสาวชุลีกาญจน์ อายุ 44 ปี ซึ่งลูกชายเรียนอยู่ห้องเดียวกัน บอกว่า ลูกชายก็มาเล่าให้ฟังว่า เห็นครูประจำชั้นทำโทษเพื่อนโดยการใช้เทปกาวปิดปาก นอกจากนี้ ลูกของตนเองรวมถึงเพื่อนๆ ในห้องก็เคยถูกทำโทษ ถูกมือทุบเข้าที่หลัง จึงปรึกษากันเองในกลุ่มผู้ปกครอง
แต่ว่าผู้ปกครองหลายคนก็ยังกังวล เนื่องจากลูกยังต้องเรียนที่นี่ต่อ ส่วนตนเองสองคนเห็นว่า เรื่องนี้เป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุ จึงต้องใช้กฎหมายดำเนินคดีกับครูรายนี้
ทางด้านพันตำรวจเอก พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ์ ผู้กำกับ สภ.บางปู ระบุว่า เบื้องต้นได้รับรายงานผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่พนักงานสอบสวนได้ให้ทั้งสองฝ่ายไปเจรากันก่อน หากตกลงกันไม่ได้ ผู้เสียหายก็สามารถดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าวได้ แต่จะแจ้งข้อหาได้มากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
โดยผู้สื่อข่าวของเรา พยายามติดต่อไปทางโรงเรียนสารสาสน์วิเทศสมุทรปราการ แต่ทางผู้บริหาร บอกว่า ยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลกับเรื่องที่เกิดขึ้น