วันที่ 28 ธ.ค. 63 เวลา 14.00 น. น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ชาวจ.ชลบุรี ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลหลัง ถูกนายชัย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี สามี ซึ่งเป็นเซียนพนันไก่ชน ใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่ใบหน้า มือ และแขนเป็นแผลเหวอะต้องเย็บแผลร่วม 91 เข็ม ขณะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปอำเภอเพื่อหย่าขาดจากกัน หลังเกิดเหตุแจ้งความแล้วที่สภ.พนัสนิคม ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค ที่ผ่านมา
น.ส.ก้อย เล่าว่า ตนอยู่กินกับนายชัยมาประมาณ 5 ปี โดยจดทะเบียนสมรสกัน และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน อายุ 4 ขวบกับ 2 ขวบ ระยะหลังนายชัยชอบหาเรื่องทะเลาะตบตีตนเป็นประจำ แต่ตนก็อดทนเรื่อยมา เพราะเห็นแก่ลูกทั้ง 2 คน แต่นายชัยยังไม่ดีขึ้นยังคงใช้ความรุนแรงอยู่ตลอดจนตนทนไม่ไหวขอแยกทาง โดยตนได้แยกออกมาอยู่หอพักข้างนอกประมาณ 1 เดือน แต่ยังเข้าไปหาลูกที่บ้านสามีตามปกติ
กระทั่งวันที่ 18 ธ.ค.63 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ตนและนายชัยได้นัดไปหย่ากันที่อ.พนัสนิคม เมื่อตนลงมาจากหอพักก็พบว่านายชัยได้มารออยู่แล้วจึงได้เรียกวินมอเตอร์ไซค์นั่งซ้อนสามไปด้วยกัน โดยตนนั่งตรงกลาง นายชัยนั่งซ้อนท้าย เมื่อคนขี่วินวิ่งรถออกมาจากหอพักได้เพียง 300 เมตร จู่ๆ นายชัยก็ล้วงมีดคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกรีดเข้าที่ใบหน้าตนโดยที่ตนไม่ทันระวังตัว คนขี่วินจึงได้รีบจอดรถลงมาห้าม แต่นายชัยก็ยังใช้คัตเตอร์เข้ามากรีดที่ใบหน้าตนไม่หยุด ตนพยายามใช้มือทั้งสองข้างปัดป้องทำให้มือและแขนถูกมีดกรีดเป็นแผลไปด้วย จากนั้นนายชัยรีบวิ่งหนีไป เมื่อตนตั้งสติได้ก็ขอให้คนขี่วินพาไปส่งที่โรงพยาบาลทั้งๆ ที่เลือดอาบใบหน้า มือ และแขน แพทย์ให้การช่วยเหลือเย็บที่ใบหน้าถึง 73 เข็ม ส่วนที่แขนและมือเย็บไป 18 เข็ม รวมทั้งหมด 91 เข็ม
“ได้ไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้เรียบร้อยแล้ว และบอกว่ายังต้องรอผลตรวจของแพทย์ถึงจะแจ้งข้อหากับนายชัยได้ ซึ่งเกรงว่าคดีจะล่าช้า ไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวว่านายชัยจะมาทำร้ายอีก จึงขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี“
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.จ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ปวัชร์ชัย สุดสคร ผกก.สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ขอช่วยให้ความเป็นธรรมกับน.ส.ก้อย ซึ่ง พ.ต.อ.ปวัชร์ชัย จะเร่งรัดคดีทราบว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและรอผลแพทย์จากทางโรงพยาบาลเพื่อที่จะได้ออกหมายเรียกนายชัยมารับทราบข้อหาต่อไป
นางปวีณา กล่าวว่า สถิติปี 2563 มูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีถูกทำร้ายร่างกายปรากฏว่า อันดับ 1 คือภรรยาถูกอดีตสามี หรือสามี ทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรม ถึง 305 ราย ซึ่งจำเป็นที่ตำรวจจะต้องเร่งดำเนินการทางด้านคดีให้กับผู้เสียหายให้ได้รับความปลอดภัย โดยเคส น.ส.ก้อย มูลนิธิปวีณาฯ จะประสาน พมจ. และ พม.จังหวัดชลบุรีเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ และมูลนิธิจะติดตามผลการดำเนินคดี พร้อมประสานกระทรวงยุติธรรมให้การช่วยเหลือคุ้มครองพยาน
นอกจากนี้ นางปวีณา จะได้ประสาน นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลยันฮี ให้ทำการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าให้กับ น.ส.ก้อย ต่อไปด้วย
ภาพและข้อมูลจาก Thairath