เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ดีเอสไอ ลุยค้นคอนโดหรูกลางกรุง ชาวอิสราเอล ตรวจฮาร์ดดิสก์ถึงช็อก เจอคลิปมีเซ็กส์กับเด็ก เช็กหลักฐานเพิ่มเล็งฟันคดี ค้ามนุษย์-อาชญากรข้ามชาติ

วันที่ 12 ม.ค.64 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินมาตรการเชิงรุกและบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาด และดำเนินการสืบสวน กรณีสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือสืบสวนสอบสวนผู้ต้องสงสัยราย นายทชีไว เฮอร์ชโก้ หรือ มิค อายุ 44 ปี ชาวอิสราเอล ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก อันอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (เรื่องสืบสวนที่ 216/2563)

ล่าสุด พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.สิริวิชย์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ รองผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ นำคณะพนักงานสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบและพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

โดยสนธิกำลังกับสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ส่วนแยกภาคตะวันออก) หรือ (สส.บก.ตม.3), เจ้าหน้าที่จากองค์กร Operation Underground Railroad (OUR) และองค์กร LIFT International เข้าทำการตรวจค้นห้องชุด ของคอนโดหรู ในซอย ซึ่งนายทชีไว เป็นผู้เช่าอยู่ ตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 2/2564 ลงวันที่ 8 มกราคม 2564 เพื่อตรวจค้นและอายัดสิ่งของ ซึ่งอาจจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา

ผลการตรวจค้น พบที่เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์(HARDDISK) เมื่อตรวจสอบผ่านอุปกรณ์ป้องกัน การปนเปื้อนของวัตถุพยานดิจิตัล(writeblocker) แล้ว พบว่า มีคลิปวิดีโอการร่วมประเวณีของเด็กอยู่ในที่เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายทชีไว เฮอร์ชโก้ (Mr.TZVI HERSCU) หรือ มิค ในข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อการแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลสำเหร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้ตรวจยึดพยานหลักฐานอื่นๆ เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

และจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป โดยหากพบว่า มีพยานหลักฐานที่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์หรืออาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรอาชญากรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้รับโอนสำนวนคดีมาทำการสืบสวนสอบสวนเป็นคดีพิเศษต่อไป