เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอกงหรา เดือดร้อนหนัก  11 ชีวิต  ไร้ที่อาศัยหลังใช้ที่ดินค้ำกู้   กยศ.ถูกฟ้องขายทอดตลาด

วันที่   28  มกราคม  2564   มีเรื่องร้องเรียนจาก นายเจริญ หนูหนุด อายุ 41 ปี และนางนิตย์ ฉุนอิ่ม อายุ 40 ปี สองสามี ภรรยา ว่าครอบครัวได้รับความเดือดร้อน 11 ชีวิต กำลังจะไร้ที่อยู่ ตนและภรรยาเครียดมาก ถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย นายเจริญ เล่าว่าก่อนหน้านี้ ผู้เป็นพ่อนำโฉนดที่บ้านไปค้ำประกันให้น้องชายกู้เงินกองทุนเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. แต่น้องชายกลับเรียนไม่จบ และออกจากบ้านไปหางานทำที่ต่างจังหวัด จนตนมาทราบเรื่องอีกครั้งเมื่อบ้านถูกขายทอดตลาด และมีคนไปซื้อที่บ้านของตนไว้แล้ว ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีเอกสารส่วนหนึ่งส่งมาที่บ้าน ซึ่งผู้เป็นพ่อและแม่เป็นคนเซ็นรับโดยที่ทั้งคู่ก็ค่อยไม่รู้หนังสือ พวกตนเองก็เป็นคนบ้านๆมีความรู้แค่งูๆปลาๆ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุม ตนและภรรยาพร้อมด้วยแม่ และพี่ชายในข้อหาบุกรุกจึงทราบเรื่องว่าบ้านถูกขายทอดตลาด และมีคนซื้อไปแล้ว ตนและครอบครัวพยายามเจรจา ขอความเมตตาซื้อกลับแต่ผู้ซื้อขายในราคา 6 แสนพร้อมระบุให้ตนจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งตนก็ไม่มีปัญญา เพราะครอบครัวหาเช้ากินค่ำ มีรายได้แค่วันละ 300 – 400 บาท ต้องนำมาเลี้ยงอีก 7 ชีวิต ในครอบครัว มีเงินนอกบ้างก็ได้จาก บุตรสาวทั้งกำลังเรียนชั้น ม.4 กับ ม.5 ในโรงเรียนกงหราพิชากรเป็นนักมวยหญิง เวลาขึ้นชกมวยก็มีค่าตัว จึงได้เงินอีกส่วนมาช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว

สำหรับยอดเงินที่เป็นหนี้จนเกิดการฟ้องยึดทรัพย์และขาดทอดตลาดเป็นยอดเงินกู้ กยศ ในวงเงิน 9 หมื่นบาท  แต่ที่ดินติดจำนองอยู่ที่สหกรณ์การเกษตรกงหรา 70,000 บาท  และทราบว่าผู้ที่ซื้อบ้านได้นำเงินไปจ่ายหนี้ที่สหกรณ์การเกษตรกงหราแล้วด้วย ส่วนที่ถูกจับในข้อหาบุกรุก อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาลและล่าสุดผู้ซื้อได้ยื่นคำขาดให้ออกจากที่ดินภายในเดือนมีนาคม

นายเจริญเล่าด้วยว่า ในโฉนดที่ดินเปล่ามีบ้านอยู่ 3 หลังเป็นของผู้เป็นพ่อและแม่ 1 หลัง อาศัยรวมกับพี่ชายคนโต อีกหลังเป็นบ้านของตน  รวม 11 ชีวิต ส่วนอีก 1 หลังสภาพเก่าไม่มีคนอยู่ โดยเฉพาะที่บ้านของตนอาศัยอยู่ 7 ชีวิต ประกอบด้วย ตนและภรรยา บุตรสาว 2 คน และมีลูก ๆ ของน้องชายอีก 3 คน ทุกคนอยู่ในวัยกำลังเรียนทั้งหมด ซึ่งหากไม่มีบ้านพวกตนก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่ไป ตนและภรรยาเครียดมากถึงขั้นคิดค่าตัวตาย ยอมรับเป็นความผิดพลาดของน้องชายที่กู้เงินไปแล้วก็เรียนไม่จบ และไม่ยอมส่งคืน ทั้งได้หายไปจากบ้านจนไปได้ภรรยาสุดท้ายก็ต้องเลิกกับภรรยาและนำลูก จำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน  มาให้ที่บ้านเลี้ยงดูอีก แต่ตอนนี้ตนก็ไม่โทษน้องชาย เพราะรู้ว่าน้องชายก็ลำบากเหมือนกัน

ตอนนี้ตนและครอบครัวไม่รู้จะหันหน้าไปไหน มืดแปดด้าน ไม่มีที่ไป จึงอยากกราบวิงวอนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พัทลุงได้ช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้พวกตน 11 ชีวิตได้มีที่อาศัยหลบแดดหลบฝน #ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นที่ดินเพียงผืนเดียวที่มีอยู่ หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือครอบครัวสามารถร่วมสมทบทุน เพื่อให้มีบ้านได้อาศัยได้ที่  บัญชีนายเจริญ หนูหนุด ธนาคารออมสิน  สาขาตะโหมด หมายเลขบัญชี  020321102608