เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

โจรเเสบงัดบ้านหรูย่านบางบัวทองรวมกันถึง 9 หลังเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะมีหลายครอบครัวไม่อยู่บ้านติดต่อกันหลายวัน จนกระทั่งมีลูกบ้านคนหนึ่งตรวจสอบพบว่า มีทรัพย์สินในบ้านหายไป จึงแจ้งมาในกลุ่มไลน์หมู่บ้าน ทำให้หลายบ้านเริ่มตรวจสอบดูบ้างและพบทรัพย์สินหายไปเช่นกัน รวม 9 หลัง โดยทรัพย์สินที่หายไปมีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นสิ่งของขนาดเล็ก ที่สามารถพกติดตัวได้ เช่น นาฬิกา ทองคำ หรือเงินที่วางทิ้งไว้ แต่ทรัพย์สินที่มีขนาดใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า สเตอริโอ หรือแมคบุ๊ก กลับไม่ถูกขโมยไป

ซึ่งการไม่ขโมยแม็คบุ๊กไป ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า คนร้ายรายนี้ อาจจะรู้ว่า เป็นอุปกรณ์ที่สามารถติดตามตัวได้ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะว่า คนร้ายไม่ต้องการนำของที่มีขนาดใหญ่ออกไป แม้ว่าคนร้ายจะทิ้งร่องรอยไว้จำนวนมาก ทั้งการงัดบ้าน รอยรองเท้า รอยมือ แต่กลับยังไม่มีเบาะแสจากทั้งตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านว่าคนร้ายเป็นใคร

ลูกบ้านยังเล่าถึงข้อสังเกต 4 ข้อของคนร้ายรายนี้ คือ

1. บ้านทุกหลังที่ถูกงัดเข้าไป จะมีจุดร่วมที่เหมือนกันทุกหลัง คือ เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านหลายวันติดต่อกัน มีรูปแบบการงัดแงะในจุดที่คล้ายกัน มีรอยรองเท้าลักษณะเดียวกันอยู่ในจุดที่ถูกงัด
2. การรู้ว่าบ้านเป้าหมายไม่มีคนอยู่หลายวัน ทำให้คนร้ายมีเวลาที่จะเลือกทรัพย์สินที่จะขโมยไปอย่างละเอียด เช่น การนำ “ทองคำ” ออกไป และปิดฝากล่องใส่ทองวางไว้ที่เดิม กว่าเจ้าของบ้านจะรู้ตัวว่าทรัพย์สินหายไป เวลาก็ผ่านไปนานแล้ว จนไม่รู้ว่าเหตุเกิดขึ้นเมื่อไหร่
3. คนร้ายรายนี้ ยังมีความสามารถถอดเมมโมรีการ์ดออกจากกล้องวงจรปิด แบบที่เชื่อมโยงกับโทรศัพท์มือถือออกไปได้อีกด้วย

หากมีบุคคลภายนอกต้องการมาพบลูกบ้าน จะต้องแลกบัตรที่ป้อม พร้อมระบุเลขที่บ้านที่จะเข้าไปพบ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้รถจักรยานยนต์นำไปยังบ้านหลังที่ถูกระบุว่าจะไปพบ รอจนกว่าเจ้าของบ้านจะออกมายืนยัน และขาออก ก็ต้องมีตราประทับจากเจ้าของบ้านหลังนั้นกลับออกมาด้วย จึงจะแลกบัตรคืนออกไปได้ เมื่อพิจารณาทั้ง 4 ข้อนี้แล้ว ทำให้ตั้งสมมติฐานได้ว่า เป็นเรื่องยากที่คนร้ายจะลักลอบเข้ามาจากภายนอก คนร้ายอาจมีข้อมูลของบ้านที่ไม่มีคนอยู่ และยังน่าแปลกใจที่สามารถลงมือได้บ่อยๆ เช่นนี้