เฮอีก!! ห้วยกระเจา เจาะน้ำบาดาล เจอบ่อ “พุโซดา” น้ำพุ่งสูง 3 เมตร ชาวบ้านลองดื่ม บอกรสชาติซาบซ่าคล้ายโซดา เผยพบแล้ว 6 บ่อ ช่วยพื้นที่เกษตรได้ 6,000 ไร่ เร่งติดตั้งอุปกรณ์เสริม คาด 4 เดือนได้ใช้
วันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ริมถนนสายบ่อพลอย – ห้วยกระเจา ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 23 – 24 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เดินทางมาพร้อมด้วย นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผู้อำนวยการ สำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ทำการเจาะบ่อบาดาลให้กับประชาชนชาวอำเภอห้วยกระเจา ในพื้นที่ หมู่ 12 และ หมู่ 19 ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างที่เจาะบ่อบริเวณ หมู่ 19 จำนวน 3 บ่อ ขณะเจาะบ่อที่ 1 ความลึกกว่า 300 เมตร กำลังจะนำท่อลมลงไปเป่าไล่เศษหิน ได้เกิดน้ำพุ่งขึ้น สร้างความตกใจแก่เจ้าหน้าที่ที่เจาะบ่อเป็นอย่างมาก ซึ่งท่อมีขนาด 8 นิ้ว มีน้ำพุ่งขึ้นมาสูงจากระดับพื้นดินกว่า 3 เมตร

ทั้งนี้ การเจาะหาน้ำที่บริเวณบ้านทุ่งคูณ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการเจาะแล้ว 3 บ่อ บ่อแรก เจาะลึก 280 เมตร ได้น้ำปกติ ต่อมา เจาะบ่อที่ 2 ห่างจากบ่อแรก ประมาณ 100 ไร่ พบพุบ่อแรก เจาะลึก 304 เมตร พบน้ำโซดาพุ ปริมาณพุประมาณ 30-50 ลบ.เมตร พุน้ำสูงประมาณ 1.8 เมตร และในวันนี้ เจาะบ่อที่ 3 พบพุบ่อที่สอง เจาะลึก 224 เมตร พบน้ำโซดาพุ ปริมาณพุประมาณ 30 – 50 ลบ.เมตร พุสูงประมาณ 3 เมตร ซึ่งจะดำเนินการเจาะตามแผนงานที่วางไว้
“ตอนนี้ชาวบ้านมีความสุขมาก เพราะที่นี่สภาพอากาศร้อน แห้งแล้งจริงๆ ได้รับทราบว่ามีน้ำที่ไหลพุ่งขึ้นมา และไหลไม่ยอมหยุดตลอดคืนที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมาก จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถแบ็กโฮมาปรับเป็นคันพนังเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าไปลงไร่อ้อยชาวบ้านใกล้เคียง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้”
อย่างไรก็ดี หลังจากน้ำที่พุ่งขึ้นมาอย่างไม่หยุด ชาวบ้านต่างเดินทางนำภาชนะมารองน้ำกลับไป หลายคนได้ดื่มน้ำที่พุ่งขึ้นมาด้วย เมื่อดื่มน้ำเข้าไปต่างบอกว่า น้ำ มีรสชาติคล้ายกับโซดาที่เปิดค้างคืน แต่หากจะนำไปผสมเครื่องดื่มอย่างจริงจังคงยังไม่ได้ แต่ก็สามารถดื่มได้ในระดับหนึ่ง
เท่ากับ ขณะนี้ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สำรวจพบน้ำบาดาลที่ หมู่ 12 บ้านพยอมงาม จำนวน 4 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 52 ลบ.เมตร/ชม. และที่ หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ อีก 2 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 66 ลบ.เมตร/ชม. คิดปริมาตรรวมกว่า 1,700,000 ลบ.เมตร/ปี
โดยประชากรจะได้รับประโยชน์ จำนวน 15 หมู่บ้าน 7,000 กว่าครัวเรือน พื้นที่เกษตร 6,000 ไร่ ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการก่อสร้างถังประปาบาดาลขนาดใหญ่ ถังเก็บน้ำ ท่อจุดจ่ายน้ำถาวร แบบท่องวงช้าง และต่อเมนเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบประปาของ อปท. ใช้ในการเกษตรต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 4 เดือน
ด้าน นายศิริพงษ์ สืบเนียม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลห้วยกระเจา ที่เป็นผู้ร่วมประสานงานกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า พื้นที่อำเภอห้วยกระเจาแห้งแล้งมานาน ตนเองจึงได้ปรึกษากับ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทางอธิบดีฯ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนหน้านี้ แล้วทำการตรวจเส้นทางน้ำก่อนมีการขุดเจาะในพื้นที่และเกิดสิ่งแปลกประหลาด เมื่อเจาะลงไปเกิน 300 เมตร มีน้ำพุ่งขึ้นมา ยังไม่มีทีท่าจะหยุด หากเป็นเช่นนี้แล้ว คนห้วยกระเจาถือว่า โชคดี ไม่ขาดน้ำอีกต่อไป เพราะคนห้วยกระเจาที่ผ่านมาหลายอายุคน เกิดปัญหาเรื่องน้ำมาตลอด หากพื้นที่จุดนี้มีน้ำขนาดนี้ คนห้วยกระเจาก็จะมีชีวิตที่ดีได้ ในอนาคตจะมีการปรับเป็นแหล่งท่องเที่ยว เรื่องนี้กำลังคิดกันอยู่
นายสุเวทย์ สินสถาพรพงศ์ อายุ 65 ปี เจ้าของที่ดินประมาณ 50 ไร่ ได้ยกที่ดินบริเวณดังกล่าว ให้กับเทศบาลตำบลห้วยกระเจา เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ไว้ใช้ติดตั้งแทงก์น้ำบาดาล เพื่อไว้ให้คนห้วยกระเจาได้มีน้ำใช้ โดยกล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมาเจาะแล้วเกิดน้ำพุ่งเหนือพื้นดินอย่างต่อเนื่อง หากเป็นเช่นนี้ ชาวห้วยกระเจาไม่ขาดน้ำอีกแล้ว โดยตนเองเสียสละเพียงคนเดียว สามารถช่วยคนห้วยกระเจาได้หลายหมื่นคน