บอกเลยงานนี้แฉกันหนักมาก เมื่อ ทาทาให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง ถึงที่มาของความเป็นซูเปอร์สตาร์ว่า เกิดจากการที่แคสเอ็มวีเพลงของ “มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” แล้ว “เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์” บังเอิญเดินผ่านมาและเห็นแวว ก็เลยเรียกเข้าไปคุยถามไถ่ว่าเป็นใครมาจากไหน และมีการบรีฟกันเรื่องเพลง กลายเป็นจุดกำเนิดของการเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ที่ขายเทปได้ล้านตลับภายใน 3 เดือนโด่งดังไปทั่วประเทศ
“แก้ว พรีเมียร์”ถึงกับไม่ทนออกมาแฉว่า “ดูทีวีเห็นเขาพูดแล้วก็อยากจะพูดบ้าง เรารู้จักกับเขาก็เพราะน้องนุ่น(ลูกสาว) ไปเรียนร้องเพลงกับโรงเรียนของครูอ้วน มณีนุช ซึ่งตอนนั้นทาทาประกวดชนะการร้องเพลง เราพาลูกไปเรียนก็ไปเห็นรูปทาทาติดที่โรงเรียน ก็เลยสนใจถามที่โรงเรียนว่าเด็กคนนี้เป็นใครน่ารักดี ก็เลยขอเบอร์ทางโรงเรียนแล้วก็โทรไปหาแม่เขา หลังจากนั้นก็เป็นการคุยกัน ตอนนั้นที่ทาทาประกวดเสร็จก็เงียบไม่มีงาน”
“ตกลงกับแม่เขาในเรื่องค่าทำงานหัก 25 เปอร์เซ็นต์ บางงานก็ 20 ถ้าได้เงินน้อยก็ยกให้ฟรี ก็พาเขาไปหนังสือวัยรุ่น เดอะบอย เธอกับฉัน แต่ไม่ค่อยได้รับการตอบรับ อยากให้ถ่ายแฟชั่นแต่ก็ไม่ได้ พาไปแคสโฆษณามีบ้างที่ได้งานแต่เป็นตัวประกอบไม่ถึงกับเด่น ไปไหนมาไหนก็กระเตงเขาไปพร้อมกับเจสัน ยัง สำหรับเจสัน ไปเจอตอนที่ไปรับแอนดริว เกร็กสัน ที่โรงเรียน คือแอนดริวเป็นเด็กในสังกัด พอเลิกเรียนเราก็จะรับไปทำงาน ตอนนั้นแอนดริวฮอตมาก ครูก็เดินมาฝากฝังเจสัน บอกว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กดีน่าสงสาร พาเจสันมาให้ช่วยหางานให้ เจสันก็มากินนอนที่บ้านเรา ก็สนิทกับทาทาไปไหนมาไหนด้วยกัน”
“จังหวะทีทาทามาเกิดเพราะตอนนั้นแคสสติ้งที่แกรมมี่ซึ่งสนิทกันมากโทรมาบอกว่า อยากได้ลูกครึ่งถ่ายเอ็มวีเพลงเหลวไหลของมอส วันนั้นก็พาไป 3 คน เขาเอา 3 คนของเราหมดเลย โมเดลลิ่งอื่นเยอะแยะไม่มีใครได้เราได้คนเดียว ตอนนั้นโมเดลลิ่งของเราจัดว่า ค่อนข้างมีชื่อติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ค่อนข้างมีภาษีกว่าคนอื่นๆ”
“ทาทาบอกว่า มาแคสมิวสิคเหลวไหลของมอส แล้วบอกพี่เต๋อมาเห็น ซึ่งตรงนั้นเราอยู่ด้วยตลอด พี่เต๋อไม่ได้อยู่ มีแต่กูนี่แหละอยู่ตรงนั้นตลอด ซึ่งเราก็รู้จักกับพี่มิกกี้ คือใครที่เข้าแกรมมี่จะต้องไปเทสต์เสียงกับคนนี้คนเดียวเท่านั้น เราก็ไปหยิบกระดาษใบสมัครและขอปากกามาให้ทาทากรอก เป็นคนเอาใบสมัครเข้าไปส่งให้พี่มิกกี้ แล้วก็โทรหาพี่มิกกี้ว่า จะให้ทาทาไปเทสต์เสียงเมื่อไหร่”
“กระทั่งทาทาได้ไปเทสต์เสียง และปรากฏว่าทาทาเทสต์เสียงผ่าน แกรมมี่ก็เรียกเข้าไปคุยหลายหน ทำเพลงกันใกล้จะออกเทป ตอนนั้นก็คุยกันตลอด พอถึงวันออกเทปทางนั้นบอก แก้วไม่ต้องพูดเลยนะ ไม่ต้องพูดเรื่องเงินไม่ต้องมาคุย บาทเดียวก็จะไม่ให้ หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยโทรหาอีกเลย แล้วเขาไปเซ็นสัญญากับแกรมมี่ทั้งที่มีข้อตกลงอยู่กับเรา แล้วมาพูดว่าแกรมมี่เรียกไปคุย ทั้งที่เราเป็นคนจัดการให้หมด อันนี้เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์แต่ล้านเปอร์เซ็นต์ เป็นสิ่งที่เราไม่เคยพูด วันนั้นถ้าไม่ขอเบอร์ที่โรงเรียน ถ้าไม่พาไปถ่ายเอ็มวีของมอส ไม่ไปหยิบใบสมัครมาให้จะมีวันนี้ไหม”
“เขาภูมิใจมีเงินเป็น 10 ล้านตั้งแต่ยังเด็ก เราฟังแล้วก็อยากจะพูดบ้าง ทำงานในวงการบันเทิงเจอมาหลายสิ่งหลายอย่าง ดารานักแสดงในสังกัดแต่ละคนก็เรียกว่า เป็นเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย ทุกวันนี้ก็ยังโด่งดังมีชื่อเสียง อย่าง อั้ม พัชราภ , นุ่น วรนุช , เอ๋ พรทิพย์ฯลฯ นี่ต้องยอมรับในการทำงานของเขา เขาอยู่กับเราจนหมดสัญญา ทำงานกันมาด้วยดีจนครบสัญญา ตั๊ก บงกช ก็ประสบความสำเร็จ ตอนสมัยเด็กๆ อาจมีแรงบ้างด้วยความเป็นคนตรง พอโตมาเขาก็เข้ามาคุยมาขอโทษสมัยก่อนตั๊กยังเด็ก ตั๊กเป็นคนดีถึงได้เจอแต่สิ่งดีๆ มีชีวิตที่ดี”
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ที่พูดนี่ไม่ได้ต้องการออกมาทวงบุญคุณ แค่อยากบอกว่ามันเป็นแบบนี้
