เฟซบุ๊ก ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดอุทัยธานี โพสต์เรื่องราวน่ายินดี ครอบครัวเสวกจันทร์ รับตัวนายสว่าง กลับบ้านแล้ว หลังหายตัวเป็นคนเร่ร่อนนานกว่า 28 ปี
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดอุทัยธานี ได้โพสต์เรื่องราวที่น่ายินดี โดยระบุว่า ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุทัยธานี ได้รับการประสานพบชายเร่ร่อนอาศัยหลับนอนในที่รกร้างกว่า 10 ปี วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี เทศบาลเมืองอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีได้รับแจ้งจากประชาชนที่พบเห็นชาย อายุประมาณ 50 ปี ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง อาศัยปลูกเพิงพักบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ร้าง เขตพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานี กว่า 10 ปีแล้ว จากการลงพื้นที่ปรากฏพบชายเร่ร่อนรายดังกล่าว แจ้งชื่อคือนายสว่าง เสวกจันทร์ อายุ 53 ปี สามารถสืบค้นทะเบียนราษฎรพบที่อยู่เลขที่ 106 หมู่ 2 ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี สภาพร่างกายแข็งแรง นอกจากแจ้งชื่อ-สกุลแล้ว ไม่ยอมพูดจาสื่อสารให้ข้อมูลใดๆ อีก
แต่พฤติกรรมยอมรับฟัง รับรู้ เข้าใจ แต่ไม่ยอมพูดสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ ในการนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ไปสืบค้นข้อมูลญาติพบข้อมูลมารดา ทราบชื่อคือ นางบุญเนือง เสวกจันทร์ อายุ 86 ปี ที่อยู่เลขที่ 106 หมู่ 2 ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้ประสานผ่านศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดต่อผู้นำชุมชน ทำให้ทราบข้อมูลว่านายสว่าง ได้หายออกจากบ้านจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นเวลา 28 ปี มารดาและญาติพี่น้องได้พยายามติดตามตัวเนื่องจากเป็นห่วงในชีวิตความเป็นอยู่เพราะขาดการติดต่อกับครอบครัวตลอดระยะเวลา 28 ปีที่ผ่านมา เมื่อญาติได้ทราบว่าพบตัวนายสว่าง ที่จังหวัดอุทัยธานี รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จึงรีบติดต่อศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุทัยธานีทันทีเพื่อจะเดินทางมารับตัวนายสว่าง เสวกจันทร์ ในเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564
วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี เทศบาลเมืองอุทัยธานี และนายกสมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี ลงพื้นที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ร้าง อำเภอเมืองอุทัยธานี เพื่อร่วมนำส่งตัวนายสว่าง เสวกจันทร์ กลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัว ท่ามกลางความปิติยินดีของครอบครัวและหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีอย่างท่วมท้น
