วันที่ 1 ก.พ. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า บ้านเมืองนี้เคยมีคนประกาศว่าไม่อยากเลือกตั้ง ถึงขั้นเดินขบวนรณรงค์กันในระหว่างมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งแล้ว หรือขนอาวุธสงครามมาไล่ยิงคนที่แยกหลักสี่กลางวันแสกๆ ก็ยังทำได้ โดยหลายคนที่มีส่วนร่วมยังไม่ถูกดำเนินคดี แต่คนประกาศว่าอยากเลือกตั้งกลับถูกออกหมายเรียกแบบปูพรม เห็นหน้าใครก็ต้องเอาผิดให้หมด ทั้งที่คนอยากเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ส่วนจะมีฐานความผิดอื่นหรือไม่เจ้าหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติด้วยความเป็นธรรม ไม่สองมาตรฐาน และเป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจต้องพิจารณาให้รอบคอบ คำว่าลดราวาศอกถ้าจะใช้ก็ควรใช้กับสถานการณ์นี้ได้
ทั้งนี้ อย่าไปวาดภาพว่ามีคนหาเรื่องล้มรัฐบาล ถ้าการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแม็ปเดิมเชื่อว่าไม่มีใครเคลื่อนไหว แต่เพราะไม่มีความแน่นอนอะไรเลย การเอาเนื้อเพลงท่อนท้ายมาหักล้างท่อนฮุกของเพลงเดียวกัน คือข้อยืนยันว่า หลังจากนี้จะเลือกอธิบายบิดไปบิดมาอย่างไรก็ได้ อยากให้สังคมพิจารณาว่าระหว่างคนอยากเลือกตั้งกับคนอยากอยู่ยาว อะไรกันแน่ที่เป็นปัญหา ทั้งนี้ สำหรับ นปช.เราอยากเลือกตั้งมาตั้งแต่ต้นปี 57 เพื่อรักษาประชาธิปไตยแล้วแก้ไขปัญหาโดยกลไกที่ประชาชนมีส่วนร่วม จึงขอเป็นกำลังใจให้ผู้ถูกกล่าวหา เชื่อมั่นว่าทุกคนเข้มแข็งที่จะต่อสู้ตามหลักการต่อไป พวกตนยังคงติดตามสถานการณ์ในที่ตั้ง
“เพราะสู้มากว่า 10 ปีเป็นคนหน้าช้ำ ต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกบิดเบือนเพื่อทำลายคนหน้าใหม่ ที่สำคัญคือ อยากให้สังคมไทยได้คิดว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องของทุกคน จะ นปช. กปปส.หรืออื่นๆ ถ้ามีการเลือกตั้งก็ได้เท่าๆ กัน คือ 1 สิทธิ์ 1 เสียง ใครจะเลือกพรรคเก่า พรรคใหม่หรือพรรคทหารก็ได้ แล้วเดินหน้าประเทศไปตามกติกา ชีวิตที่มีสิทธิ์เลือกมันมีศักดิ์ศรี อยู่มา 4 ปีแล้วจะอะไรนักหนา” นายณัฐวุฒิ กล่าว
Cr. ข่าวสด