เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงการยื่นมือเข้าไปช่วยสืบคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาทว่า คดีนี้ยังถือว่าครูปรีชาไม่ใช่เจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านบาทตัวจริง โดยทางชมรมฯพบความผิดปกติในคดีนี้ตั้งแต่วันที่ 2-28 พ.ย.60 เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการโดยไม่ปกติ และพบว่าใช้อำนาจรัฐเรียกลุงจรูญไปเจรจาไกล่เกลี่ยนอกรอบ จึงส่งทีมงาน 4 ชุดลงพื้นที่หาข้อมูลจนได้ข้อเท็จจริงหลายอย่าง ทั้งคลิปวิดีโอ ภาพและเสียง แต่ไม่ได้ไปก้าวล่วงทีมทนายของลุงจรูญ จะไปทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเปิดข้อมูลข้อมูลเชิงลึกของฝ่ายครูปรีชา เชื่อใช้เวลาไม่เกิน 15 วัน น่าจะได้ข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า วันที่ 5 ก.พ. เวลา 10.30 น. ทางชมรมฯร้องขอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สั่งย้ายผู้การฯจังหวัดกาญจนบุรี มาปฏิบัติราชการที่ส่วนกลางในช่วงทำคดี เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้ในพื้นที่รู้สึกอึดอัด หากผู้การฯยังคงอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากผู้การฯเข้าไปมีส่วนร่วมในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

นายอัจฉริยะ กล่าวทิ้งท้ายถึงครูปรีชาว่า “มีเวลาให้ 3 วันในการคิดทบทวน เพราะวันนี้ยังมีเวลาให้กลับตัวกลับใจอย่าถลำลึกเลย ความจริงมันต้องปรากฏ ครูรู้อยู่แล้วว่าในวันที่ 1 พ.ย. ครูไม่มีลอตเตอรี่ 533726 ด้วยความเคารพครู อยากให้กลับตัวกลับใจ ไม่อยากให้ครูเป็นแบบครูจอมทรัพย์ ต้องถูกออกราชการ ไม่มีมีที่ยืนในสังคม เนื่องจากทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เดินหน้าสืบคดีนี้ในทางลับ พี่น้องไม่ต้องกังวลว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เชื่อว่าไม่เกิน 15 วันคดีนี้น่าจะได้ข้อยุติ ขณะนี้หลักฐานที่มีอยู่ในมือชี้ชัด จึงขอเตือนครูปรีชา”

สำหรับ นายอัจฉริยะ เคยมีผลงานเข้าไปช่วยตรวจสอบและหาหลักฐานในคดีสำคัญมากมาย ที่โด่งดังเป็นคดีจอมทรัพย์ และคดีค้ากามที่ จ.แม่ฮ่องสอน

ที่มา – เดลินิวส์